ประเด็นเรื่อง Free Speech หรืออิสระในการแสดงความคิดเห็น ถูกนำกลับมาถกกันอย่างดุเดือดอีกครั้งหลังจากมีเหตุการณ์ที่แบรนด์ดังร่วมมือกันแบนและงดซื้อโฆษณาบนสื่อออนไลน์ อย่าง Facebook Instagram และ Twitter ภายใต้แคมเปญ “Stop Hate for Profit” หรือ “หยุดความเกลียดชังที่สร้างกำไร” เพราะสื่อเหล่านี้ไม่สามารถจัดการกับ Hate Speech ได้ และไม่มีมาตรการใด ๆ มาจัดการกับเรื่องนี้เลย
อย่างกรณีการต่อต้านการเหยียดสีผิว #BlackLivesMatter ที่เกิดการฟาดฟันด้วยเนื้อหาที่สร้างความเกลียดชัง อาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ แต่ Facebook ก็นิ่งเฉย การแบนครั้งนี้จะเป็นจุดที่ Facebook จะเสียรายได้ไปมหาศาล หากไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเลย
แล้ว Free Speech ทำได้ไหม Hate Speech น่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือ?
วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันว่าจริงๆ แล้ว Free Speech คืออะไร ทำได้จริงรึเปล่า แล้วขอบเขตมันอยู่ตรงไหน แล้ว Hate Speech กับ Free Speech เป็นเรื่องเดียวกันไหม บาลานซ์ยังไงให้เรามีเสรี แต่อยู่ในความพอดี? LDA Podcast Episode นี้จะมาเล่าให้ฟังค่ะ
Free Speech คืออะไร
“Free Speech” แปลตรงตัวคือ Free หรือ Freedom ที่แปลว่าอิสระ,เสรี ส่วน Speech ก็คือการพูด รวม ๆ แล้วก็คืออิสระในการพูดหรือแสดงความคิดเห็น แต่เราจะแสดงความคิดเห็นยังไงก็ได้ เพราะเรามีเสรีอย่างนั้นหรือ?
เมื่อทุกคนมีสื่ออยู่ในมือและสามารถสร้างเนื้อหา เป็น Content Creator เองได้ จะเป็นเพียงโพสต์สั้น ๆ การแสดงความคิดเห็น ทำบทวิเคราะห์ที่เป็นไปอย่างอิสระ เหล่านี้คือ Free Speech แต่คนก็สามารถทำให้ Free Speech กลายเป็น Hate Speech ได้
Hate Speech คืออะไร
Hate Speech คือการแสดงความคิดเห็นที่แสดงถึงความเกลียดชัง ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Free Speech เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพ ที่เราจะรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ รักหรือเกลียด พบได้ในรูปแบบของการด่าทอ เสียดสี เป็นไปตามธรรมชาติมนุษย์ การใช้ Hate Speech อาจจะไม่ผิด เพราะ Hate Speech ก็คือ Free Speech ถ้าเราโดนกีดกัน แล้วจะเรียกว่าอิสระได้ยังไง
แต่หาก Hate Speech กลายเป็น Do harm Speech นี่ล่ะควรถูกกีดกัน
Do harm Speech คืออะไร
Do harm Speech คือ ความคิดเห็นหรือคำพูดที่จะชักนำ ยุยง ก่อให้เกิดความรุนแรง เช่น การที่เราระบายอารมณ์ออกมาด้วย Hate Speech แล้วเกิดการแท็กเพื่อน หรือระบุตัวบุคคล ฉันเกลียดคนนี้ ใครเจอฝากตบหน่อย นำไปสู่การทำร้าย เกิดอันตรายกับบุคคลนั้น นี่คือ Do harm Speech
หรืออย่างเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ กลุ่มคูคลักซ์เคลน หรือ KKK คือกลุ่มคนผิวขาวเหยียดสีผิวที่รุนแรงมาก ๆ เกลียดคนผิวสีมาก ๆ ของสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ใช่เพียงการเกลียดทางอารมณ์ แต่ยังทำร้ายร่างกาย ใช้ความรุนแรง ไปจนถึงขั้นฆ่ากัน และอีกหลากหลายสถานการณ์ในประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า Do harm Speech น่ากลัวยังไง (ฟังอย่างละเอียดใน Podcast)
แล้ว Free Speech มีขอบเขตไหม
ตอนนี้คนก็กำลังหาจุดตรงกลางที่เราสามารถแสดง Free Speech ได้โดยที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับผู้อื่น ไม่ริดรอนสิทธิของตัวเอง พร้อม ๆ กับไม่ริดรอนสิทธิของผู้อื่น แล้วใครจะเป็นคนกำหนดขอบเขต หากเป็นคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แล้วมุมมองของเขาจะตรงกับคนอื่น ๆ หรือไม่
ยกตัวอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศที่โดดเด่นเรื่อนเสรีภาพและประชาธิปไตย แต่ทั้งนี้ อเมริกาก็เชื่อว่าถ้อยคำเกลียดชัง (Hate Speech) ก็เป็นเสรีภาพในการพูด อเมริกาจึงจะไม่มีการออกกฎหมายที่ขัดกับเสรีภาพ เราจึงได้เห็นเรื่องการเหยียด การดูหมิ่นต่าง ๆ ที่เป็นไปอย่างอิสระ และไม่มีการกำหนดเป็นกฎหมายชัดเจนว่าทำแบบไหนถึงจะผิด
หรือประเทศเยอรมันที่ให้อิสระภาพในการแสดงความคิดเห็นแต่ยังให้ความสำคัญกับการไม่สร้างการเกลียดชัง เพราะเยอรมันเองก็เคยบอบช้ำจากความเกลียดชังมาแล้ว เมื่อมีคนออกมาสร้างความเกลียดชัง ปลุกปั่น ถูกจับทันที โดยมีข้อกฎหมายบอกชัดเจนว่าทำแบบไหนถึงผิด แล้วมีโทษยังไง
แล้วโลกอิสระอย่างโลก Online ล่ะ ใครเป็นคนกำหนด? ยกตัวอย่าง Twitter โดย Jack Dorsey เจ้าของแพลตฟอร์ม Twitter ก็ยืนยันที่จะอยู่ข้างเสรีภาพ แต่ ก็ได้เล็งเห็นว่าอาจจะมีบางอย่างที่นำไปสู่ความรุนแรงได้ จึงได้สร้างกฎขึ้นมาใหม่และมีมาตรการลงโทษที่ชัดเจน สำหรับเนื้อหาที่มีความรุนแรง หรือสนับสนุนความรุนแรง การก่อการร้าย คุกคาม ข่มขู่ต่าง ๆ สังเกตได้ว่าเมื่อเราเล่น Twitter จะมีการซ่อนเนื้อหาบางอย่าง หรือบอกก่อนว่าเนื้อหามีความอ่อนไหว เราจะเลือกดูหรือไม่ก็ได้ การลงโทษก็จะมีตั้งแต่การลบเนื้อหานั้น ๆ ไปจนถึงการปิดแอคเคาท์
นอกจากนี้ยังมีตัวอย่างของแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่พยายามผลักดันเรื่องนี้ ไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น ลดการเผยแพร่เนื้อหาที่เป็น Do harm Speech ออกไป แต่ก็ยังมีช่องว่างเล็ก ๆ ที่ทำให้ควบคุมได้ไม่ทั้งหมด เราก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าอนาคตแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร
บทความนี้สรุปเรื่อง Free Speech ให้ทุกคนได้เข้าใจกัน สามารถทำความเข้าใจอย่างละเอียด ได้ที่ Podcast ด้านบนหรือเลือกช่องทางต่าง ๆ ที่สะดวกด้านล่างเลยค่ะ ฝากไว้อีกสักนิด หากเราอยากมี Free Speech ก็ต้องยอมให้มีพื้นที่สำหรับ Hate Speech ด้วย เพียงแต่ต้องคิดว่าเสรีภาพที่แท้จริงแล้วคืออะไร? หยุดคิดสักนิดก่อนที่จะโพสต์