ทรูมูฟเอช กิฟต์ -> ของขวัญแทนคำขอบคุณ จากทรูมูฟเอช
โลกทุกวันนี้หมุนเร็ว อะไรๆก็ล่อตาล่อใจไปหมด เกิดเป็นคน Generation นี้จะว่าดีก็ดี เพราะเทคโนโลยีทำให้เราจะทำอะไรก็ง่าย สะดวกสบาย แต่จะว่าโชคร้ายก็ใช่ เพราะเราได้เห็นโลกกว้างขึ้น เห็นโอกาสหลากหลาย ความสนใจกระจายไปหลายสาขา นู่นนี่นั่นก็อยากทำ แต่เวลามีจำกัดเท่าเดิม ในขณะเดียวกันบางครั้งก็เกิดภาวะสับสน เพราะเราเสพสื่อโซเชียลมากเกินไป พื้นที่ที่ใครๆก็เลือกจะเอาด้านดีมาโชว์กัน ทำให้หลายครั้งเราเผลอเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ที่ดูชีวิตมีความสุขกว่า หรือประสบความสำเร็จกว่า หลายครั้งจึงรู้สึกกดดัน เป็นต้น
เฟื่องเองก็อาจจะเป็นคนนึงที่สะท้อนความเป็นคน Generation นี้ได้ดี คือมีความสนใจหลายอย่าง ชอบทำงานแบบ Multitask ยิ่งทำได้เยอะยิ่งฟิน ชอบใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่ามากที่สุด ในวันๆนึงจะมีกิจกรรมอัดแน่นเกือบตลอดทั้งวัน ไปนู่นมานี่ ออกจากบ้านไปอ่านข่าวตั้งแต่เช้ามืด แล้วก็รันยาว กว่าจะได้กลับบางทีก็มืดแล้ว ใช้ชีวิตหมุนไปตามโลกในจังหวะที่เร็ว บางทีก็รู้สึกว่า “เร็วเกินไปไหมนะ?” บางทีที่เหนื่อยมากๆก็มาตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันว่า “เราทำขนาดนี้ไปได้ยังไง”
จังหวะที่ยังเด็ก ยังมีพลังเหลือเฟือ แต่พอโตขึ้นมาถึงจุดนึง (จุดนี้แหละค่ะ ใกล้วัยเบญจเพสเต็มที55) ได้ลองมานั่งนิ่งๆ ตกตะกอน นึกย้อนดูชีวิตที่ผ่านมา โอ้โห เป็นมนุษย์บ้าพลังจริงๆ และเหตุผลเดียวที่ทำให้เราใช้ชีวิตแบบ extreme ขนาดนี้มาได้ เพราะเรามี “Back up” ที่ดี คอยเป็นรากฐาน คอยอุดรูรั่ว คอยผลักดันเราแบบลับๆ ไม่ใช่ใครที่ไหน “คุณพ่อ-คุณแม่” ของเฟื่องนั่นเองค่ะ
ถ้าจะให้เปรียบเทียบ วัยหนุ่มสาว เป็นวัยที่เหมือนนกกำลังโผบิน แต่นกจะบินไปไหนได้ไม่ไกลเลย ถ้าขาด “ลมใต้ปีก” คุณพ่อคุณแม่เป็น “ลมใต้ปีก” ของเฟื่องจริงๆค่ะ ก่อนหน้านี้เฟื่องมัวแต่มุ่งอยากจะบินไปข้างหน้า จนลืมมองและใส่ใจ “สิ่งธรรมดาที่แสนวิเศษ” ทุกสิ่งทุกอย่างที่พ่อแม่ทำให้ เรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่น การดูแลงานบ้านให้ทุกอย่างแบบไม่ขาดตกบกพร่อง เตรียมอาหาร/ผลไม้ที่มีประโยชน์ให้ทานก่อนออกไปทำงาน และเวลากลับมาเหนื่อยๆ เกร็ดชีวิตเล็กๆน้อยๆที่หยิบเอามาแชร์ ฯลฯ ทุกๆอย่างล้วนเป็นส่วนผสมสำคัญที่ทำให้ เฟื่องเป็นเฟื่องทุกวันนี้ได้
ณ วันนี้ที่โตขึ้น นิ่งขึ้น เฟื่องได้ตั้งเป้าหมายใหม่ให้ตัวเอง คือ ได้เวลากลับมาใส่ใจพระในบ้านของเราแล้ว จะทำยังไงให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุขที่สุด สบายที่สุด และภูมิใจในตัวลูกคนนี้ที่สุด ถือเป็นการตอบแทนพระคุณที่ท่านให้ความรักและดูแลเรามาเป็นอย่างดีตลอด 24ปีนี้
เมื่อไรที่มีไม่มีงาน เฟื่องก็จะพาท่านไปทานอาหารอร่อยๆ ไปเที่ยวต่างจังหวัดเปลี่ยนบรรยากาศ มีเวลาคุยกันตามประสาครอบครัว เปิดโอกาสให้เราได้หยอกล้อ ยิงมุกใส่กัน การเห็นพ่อแม่ ยิ้ม-หัวเราะ เหมือนกลับไปเป็นเด็กๆอีกครั้งนึงเป็นเหมือนการชาร์จแบตเตอรี่ชีวิตของเฟื่องเลยค่ะ