ตลาดอีคอมเมิร์ซยังโตต่อเนื่อง หลังสตาร์ทอัพไทย MyCloudFulfillment ปิดดีลระดุมทุนซีรีส์ B กว่า 7.4 ล้านเหรียญสหรัฐ จาก 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ JWD และ SCB 10X นำไปสู่การเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจ ก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 คลังสินค้าออนไลน์ พร้อมขยายพื้นที่บริการไปสู่ต่างประเทศ ตอบรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของอีคอมเมิร์ซ
MyCloudFulfillment คืออะไร
บริษัทคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจร ผู้ให้บริการ Fulfillment ที่มาพร้อมกับระบบจัดการออเดอร์ (OMS) และระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) ช่วยให้ร้านค้าจัดการ เก็บ แพ็ค ส่งสินค้า และเชื่อมต่อ API เข้ากับช่องทางการขายต่าง ๆ ได้แบบอัตโนมัติ (API Lazada, Shopee, Live commerce etc.)
ด้วยรูปแบบบริการที่ยืดหยุ่น มีบริการแพ็คสินค้า ที่สามารถ Customize ได้ตามต้องการ เช่น แพ็คแบบพิเศษ QC สินค้า จัดเซ็ต เพิ่มมูลค่าสินค้าที่มากกว่าแค่รับแพ็คสินค้าทั่วไป อีกทั้งยังช่วยจัดการ Supply Chain จัดการคำสั่งซื้อ และนำข้อมูลการขายและการคลัง มาใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจได้
ก้าวสำคัญ ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ใหญ่
“การระดมทุนรอบนี้เป็นก้าวใหญ่สำหรับเรา ไม่ใช่แค่การเพิ่มความแข็งแกร่งให้เติบโตมากขึ้น
แต่ยังได้พาร์ทเนอร์คนสำคัญที่จะร่วมกันช่วยหาลูกค้า”
การจับมือกับ JWD คือการดึงความสามารถของทั้ง 2 ฝ่ายมาร่วมกัน โดย MyCloudFulfillment จะเป็นคนซัพพอร์ตเรื่องระบบคลังสินค้า ระบบจัดการออเดอร์ และการดำเนินงานในคลังสินค้า ส่วน JWD จะซัพพอร์ตเรื่องการลงทุน สามารถใช้โครงสร้างพื้นฐาน และประสบการณ์ด้านโลจิสติกส์ของ JWD ที่มีอยู่ รองรับการขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว และแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
“JWD เล็งเห็นถึงความสามารถ จึงมั่นใจและลงทุนในบริษัท ซึ่งมีการเติบโตอย่างดีตามเทรนด์ของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ด้าน JWD เองมีประสบการณ์โลจิสติกส์ที่สั่งสมมานาน ทั้งในและต่างประเทศ มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน มีการลงทุนคลังสินค้าหลายประเภทในทำเลยุทธ์ศาสตร์ และฐานลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม
การร่วมมือกันนี้ช่วยเพิ่มสปีดของทั้งสองฝั่ง ในการขยายคลังสินค้าออนไลน์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพิ่มความได้เปรียบในเชิงการแข่งขันทันที และสามารถช่วยกันพัฒนา Fulfillment ให้ล้ำสมัยที่สุด และสามารถเป็นผู้นำด้าน Order Fulfillment ได้อย่างแน่นอน”
มากไปกว่านั้น SCB 10X ยังคงให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การระดมทุนในรอบ Series A เมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งสามารถนำผลิตภัณฑ์ด้านการเงินของ SCB 10X มาใช้ เพื่อช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
โอกาสเติบโต และทิศทางต่อไป
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา MyCloudFulfillment มียอดออเดอร์เติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 300,000 ออเดอร์ต่อเดือน ซึ่งโตขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้วกว่า 3 เท่า และได้มีการขยายคลังสินค้าจากเดิม 2 แห่ง ที่ลาดกระบังและรังสิต พื้นที่รวมกว่า 10,000 ตารางเมตร สู่คลังสินค้าที่ 3 คลังสินค้าแห่งใหม่ ย่านมีนบุรี ด้วยพื้นที่กว่าอีก 6,500 ตารางเมตร ผ่านการร่วมมือกับ JWD Group โดยคลังสินค้าแห่งใหม่นี้ จะสามารถรองรับออเดอร์ได้สูงสุดถึงวันละ 30,000 ออเดอร์
อย่างไรก็ตามเป้าหมายของบริษัทไม่ได้หยุดอยู่ที่แค่บริการด้านคลังสินค้า เป้าหมายสูงสุดคือ การเป็นผู้ช่วยคนสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ บริษัทมีความเชื่อมาตั้งแต่ต้นว่า ทุก ๆ อย่างที่ทำ ต้องทำให้ธุรกิจออนไลน์จัดการร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเติบโตได้อย่างยั่งยืน แต่สิ่งที่ต้องการทำต่อไป คือการช่วยลดเงินจมในสต๊อก และขยายโอกาสในการขาย
บริษัทจึงกำลังพัฒนาระบบ “Inventory Intelligence” ด้วย Machine Learning โดยเริ่มจากการเก็บข้อมูลผู้บริโภคในเชิงลึก และพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของสต๊อกสินค้าในระบบของแต่ละร้านค้า นำไปสู่การวิเคราะห์ออกมาเป็นข้อมูลสำคัญ ที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจสำหรับธุรกิจ เช่น สินค้าชิ้นไหนควรเก็บมากขึ้นหรือน้อยลง สินค้าชิ้นไหนขายแล้วมีกำไรหรือขาดทุน รูปแบบการขายชนิดนั้นสร้างยอดขายให้กับสินค้าชนิดไหน ฯลฯ โดยคาดว่าจะระบบจะเปิดให้ใช้ได้ในปีหน้าเป็นต้นไป
ความตั้งใจที่จะช่วยลูกค้าให้เติบโตได้ในระยะยาว บริษัทไม่ได้มองแค่การขยายฐาน แต่ต้องการให้ลูกค้าทุกคนที่ใช้บริการ มั่นใจว่าบริษัทสามารถช่วยได้จริง ๆ ทำให้ลูกค้าขายได้มากขึ้น มีกำไรมากขึ้น โตไปพร้อม ๆ กับบริษัท นั่นจึงเป็นสาเหตุ ที่ว่าทำไม MyCloudFulfillment ถึงเป็นทางเลือก เหมาะกับคนที่กำลังมองหา การลงทุนขายของออนไลน์ในยุคนี้