จากบทความที่แล้วที่เราแนะนำแอพดูหนังไป บทความนี้เราจะมาแนะนำแอพฟังเพลงกันบ้าง เพราะเชื่อว่าหลายคนก็เลือกไม่ถูก อย่างเราเองก็เสียเงินไปกับหลายแอพเลยกว่าจะเจอแอพที่เหมาะ และย้ำเหมือนเดิมว่าไม่มีแอพไหนดีที่สุด แต่ละแอพมีจุดดีและเหมาะกับแต่ละคนไม่เหมือนกันนะคะ แอพไหนดียังไง เหมาะกับใครบ้าง ไปดูกันค่า
แอพฟังเพลง แอพไหนดี
-
แอพ Apple Music
ใช้ได้ทั้งในระบบ iOS และ Android จุดเด่นคือมีคลังเพลงเยอะมากกว่า 50 ล้านเพลง เน้นไปที่เพลงสากล คนที่ชอบฟังเพลงสากลน่าจะชอบ (แต่เพลงไทยก็ยังมี) ดาวน์โหลดไว้ฟังแบบออฟไลน์ได้ มีหมวด Radio ที่จัดโดยดีเจ ดาราดัง ของต่างประเทศ ให้เราฟังตลอด 24 ชั่วโมง แถมมี Exclusive Connent เฉพาะคนใช้ Apple Music ด้วย คุณภาพเสียง 256kbps
ค่าบริการ Apple Music
-
แอพ Youtube Music
ใน Youtube Music มีทั้งเพลง Cover เพลงใหม่อัพเดทไว ประเภทของเพลงก็ครอบคลุม จะฟังแบบดู MV ด้วยก็ได้ หรือปิดจอฟังก็ได้ และส่วนตัวคิดว่าอัลกอริทึ่มค่อนข้างฉลาด จัดเพลย์ลิสต์ให้เราได้ตรงใจ คุณภาพเสียง 256kbps ใครที่ติดการฟังเพลงผ่าน Youtube น่าจะชอบค่ะ
ค่าบริการ Youtube Music
ถ้าเราสมัคร Youtube Premium จะพ่วง Youtube Music ด้วย (ถ้าใครอยากดูคอนเทนต์อื่น ๆ ใน Youtube Premium ด้วย สมัครแบบนี้คุ้มกว่า)
ค่าบริการ Youtube Premium
-
แอพฟรี เพลงหลากหลายต้อง Spotify
Spotify มีเพลงให้เลือกเยอะมาก เพลงไทยก็ค่อนข้างครบ สิ่งที่โดดเด่นคือการแนะนำเพลง การจัดเพลย์ลิสต์ ดีมาก ๆ การเล่นเพลงมีขึ้นเนื้อเพลงประกอบ นอกจากเพลงแล้ว ยังมี Podcast ให้ฟังด้วย เรื่องคุณภาพของเสียง แบบใช้งานฟรีอยู่ที่ 160kbps และแบบจ่ายเงินอยู่ที่ 320kbps
ค่าบริการ Spotify
-
แอพฟรี เน้นเพลงไทยต้อง Joox
เป็นแอพที่เน้นเพลงไทยเป็นหลัก เยอะมากที่สุดในบรรดาคู่แข่ง (แต่ก็มีเพลงสัญชาติอื่นด้วย) มีให้เลือกหลากหลายแนว การจัดเพลย์ลิสต์ก็ค่อนข้างดี มีพอดแคสต์ด้วย มีฟังก์ชัน Live จากนักร้อง วงดนตรีต่าง ๆ และฟังก์ชัน Sing เหมือนร้องคาราโอเกะ ใครชอบเพลงไทย ชอบ Cover Joox ตอบโจทย์ค่ะ สำหรับคุณภาพเสียงอยู่ที่ แบบฟรี 160kbps และแบบเสียเงินสูงสุดที่ 1411kbps
ค่าบริการ Joox
-
แอพฟรี เน้นฟังเพลงหลากหลาย Deezer
แอพฟังเพลงฟรีที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก มีเพลงให้เลือกฟังเยอะกว่า 52 ล้านเพลง ทั้งเพลงไทย และสากล ค่อนข้างครอบคลุม แต่จะไม่มีเพลงจากค่าย GMM หน้าตาแอพคล้าย Apple Music เหมาะสำหรับใครที่เน้นฟังเพลงโดยเฉพาะ คุณภาพของเสียง สำหรับแบบใช้ฟรี อยู่ที่ 128kbps และแบบเสียเงิน อยู่ที่ 320Kbps
ค่าบริการ Deezer
คัดแอพฟังเพลงมาประมาณนี้ค่า แต่ละแอพแตกต่างกันชัดเจนทั้งดีไซน์ แนวเพลง การใช้งาน เลือกแอพที่ชอบเลย ใช้ได้ทั้งรูปแบบแอพและเว็บบราวเซอร์นะ ใครมีแอพในดวงใจอะไรบ้าง เอามาแชร์ มาแนะนำกันได้ค่า และใครที่ยังตัดสินใจเลือกแอพดูหนังไม่ได้ เราก็มีแนะนำไว้นะ ตามไปอ่านกันได้เลย >> แนะนำแอพดูหนัง แอพไหนดี!? <<