หนึ่ง Gadget ที่ได้รับความสนใจมาก ๆ ในงานเปิดตัว Huawei Mate 30 Series ที่ผ่านมาอย่าง “Huawei Watch GT 2” สมาร์ตวอทช์ภาคต่อจาก Watch GT รุ่นแรกที่อัปฯ สเปคมาเน้น ๆ ในราคาน่าคบ และในที่สุดทางเราได้มีโอกาสลองใช้แล้ว วันนี้เลยจะมาสรุปจุดเด่นที่เจอ เพื่อประกอบการตัดสินใจ สำหรับใครที่เล็งอยู่ จะน่าซื้อน่าใช้แค่ไหน ไปดูกันเลยค่า
ฟังก์ชันแน่น
Watch GT 2 ไม่ได้มีดีเพียงช่วยเรื่องการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังมีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานในด้านอื่น ๆ เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยประจำตัวของเรา เช่น
- โทรออกและรับสายได้ผ่านระบบบลูทูธ มีทั้งไมโครโฟนและลำโพงรองรับการสนทนา
- รับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นข้อความจาก SMS อีเมล และแอพโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ฯลฯ (แต่ไม่สามารถตอบกลับแจ้งเตือนนั้น ๆ ได้)
- ติดตามการออกกำลังกายได้แบบเรียลไทม์ ทั้งการนับก้าวเดิน อัตราการเต้นของหัวใจ แจ้งค่าเผาผลาญแคลอรี่ ฯลฯ
- ฟีเจอร์ Huawei TruSleep 2.0 ช่วยติดตามการนอนของเรา วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วิเคราะห์การหายใจ และให้คะแนนคุณภาพการนอนหลับโดยรวมได้
- ฟีเจอร์ Huawei TruRelax วัดความเครียดของเราตลอดทั้งวัน และจะสอนให้ฝึกหายใจเพื่อคลายเครียดอีกด้วย
- ฟีเจอร์พื้นฐานต่าง ๆ อย่าง ตรวจเช็กสภาพอากาศ ตั้งนาฬิกาปลุก จับเวลา ไฟฉาย และโหมดการค้นหาโทรศัพท์ Find My Phone (เหมาะสำหรับคนขี้ลืมมาก ๆ ฮ่า)
วัดการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์ (แม้อยู่ใต้น้ำ)
สำหรับสายออกกำลังกาย Watch GT 2 เรือนนี้ได้รับการอัปเดตฟีเจอร์การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ HUAWEI TruSeen จากเวอร์ชัน 3.0 เป็นเวอร์ชัน 3.5 ที่เพิ่มความแม่นยำมากกว่าเดิม ทำให้สามารถวัดได้แบบเรียลไทม์ ดุจเทรนเนอร์มือโปรฯ ที่จะช่วยให้การออกกำลังกายของเราสนุกขึ้น การทำงานด้านกีฬาที่หลากหลายมากกว่าเดิมมีถึง 15 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การวิ่ง วิ่งลู่ ปีนเขา ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา หรือแม้กระทั่งว่ายน้ำก็สามารถวัดชีพจร ระยะทาง ความเร็วและค่าการเผาผลาญแคลลอรี่ขณะว่ายน้ำได้ เพราะตัวเรือนสามารถกันน้ำได้ที่ระดับ 5 ATM สูงสุด 50 เมตร
ฟังเพลงได้ (ไม่ต้องต่อมือถือ)
สำหรับใครที่ชอบฟังเพลง Watch GT 2 เรือนนี้สามารถใส่เพลงไว้ในนาฬิกาได้เลย โดยเพิ่มเพลงได้ผ่านแอปฯ Huawei Health สูงสุด 500 เพลง ด้วยพื้นที่ในตัวนาฬิกาประมาณ 2 GB จะฟังเพลงตอนออกกำลังกายหรือเวลาทำงานโดยไม่ต้องพกมือถือก็ทำได้แล้ว ถ้าอยากให้สะดวกขึ้นอีกก็เชื่อมต่อกับหูฟัง Huawei FreeBuds 3 ได้ง่าย ๆ เลย
แบตฯ อึดมาก (ใช้ได้นาน 2 สัปดาห์)
หนึ่งจุดที่ถูกใจมาก ๆ คือเรื่องของแบตฯ Watch GT 2 ใช้ชิปเซ็ต Kirin A1 ดีไซน์ชิปแบบ Dual chip ที่มาพร้อมเทคโนโลยีประหยัดพลังงาน ทำให้เราใช้งานแบตเตอรี่ได้ต่อเนื่องสูงสุด 2 สัปดาห์ (รุ่น 46 มม. อยู่ได้นานถึง 2 สัปดาห์ , รุ่น 42 มม. อยู่ได้นาน 1 สัปดาห์) จากที่ลองใช้มาเดือนกว่า ๆ ในหนึ่งเดือนชาร์จแบตฯ แค่ 2 ครั้งเท่านั้น ถือว่าแบตฯ อึดมาก ๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วยนะคะ
ราคาคุ้มค่า
Watch GT 2 ฟีเจอร์แน่นขนาดนี้ มาพร้อมราคาคุ้มค่าไม่เกินหมื่นเท่านั้น โดยมีราคาดังต่อไปนี้
ขนาด 46 มิลลิเมตร
- Sport Edition ราคา 6,490 บาท
- Classic Edition ราคา 6,990 บาท
- Elite Edition ราคา 7,990 บาท
ขนาด 42 มิลลิเมตร
- Sport Edition ราคา 5,990 บาท
- Classic Edition ราคา 6490 บาท
- Elegant Edition ราคา 6,990 บาท
Watch GT 2 ขนาด 46 นิ้ว รุ่น Sport และ Classic วางขายแล้ว ส่วนรุ่นที่เหลือจะวางขายเร็ว ๆ นี้ค่า
อีกหนึ่งอย่างที่ชอบเป็นการส่วนตัวก็คือดีไซน์ที่ค่อนข้างคลาสสิก มีให้เลือกหลายสีหลายรูปแบบ หน้าปัดก็เลือกได้หลากหลาย เหมาะกับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ใช้ได้กับมือถือทั้งระบบ Android และ iOS ถือว่า Watch GT 2 เป็นสมาร์ตวอทช์ที่น่าสนใจเลยทีเดียว หากใครที่เล็ง ๆ อยู่ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นหนึ่งในข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และลองหารีวิวเพิ่มเติมเยอะ ๆ นะคะ หรือใครที่ลองใช้แล้วชอบ ไม่ชอบตรงไหนก็คอมเมนต์มาคุยกันได้ค่า