
ถ้าให้พูดถึงสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบัน นอกจากจะแข่งกันเรื่องกล้องแล้ว ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องจอไร้ติ่ง สิ้นรอยบาก แน่นอนว่าส่วนหนึ่งที่สมาร์ทโฟนหลายค่ายทำให้จอไร้ติ่งได้ยากนั้น เกิดมาจากการกันพื้นที่ไว้สำหรับกล้องหน้านั่นเอง แต่ในครั้งนี้ OPPO เขาปล่อยน้องใหม่จากตระกูล F ออกมา คือ OPPO F11 Pro สมาร์ทโฟน Rising Camera กล้องหน้าเซลฟี่แบบเลื่อนเก็บได้ สุดยอดไปเลยย…

หลังจากที่เฟื่องได้เจอกับ OPPO F11 Pro ก็รู้สึกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่คุณภาพดีอีกเครื่องหนึ่งเลยค่ะ ทั้งดีไซน์ กล้อง และสเปค ครบถ้วนจนไม่อยากพลาดเอามาบอกต่อให้ทุกคนได้รู้จักกับ OPPO F11 Pro ตัวนี้ค่ะ
มาดูที่ดีไซน์ของ F11 Pro ตัวนี้กันก่อน

รุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอเต็มตา ไร้ติ่ง ขนาด 6.53 นิ้ว แบบ FULL HD Plus อัตราส่วนจอ 19.5:9
ทำจากกระจก Corning Gorilla Glass 5 ถือว่าเป็นขนาดจอกว้างที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับ F Series

โดย F11 Pro ผลิตออกมาด้วยกันทั้งหมด 2 สีคือ Thunder Black และ Aurora Green
ฝาหลังเป็นเฉดไล่สีเหมือนภาพวาดสีน้ำ ยิ่งเวลากระทบกับแสงไฟแล้ว เงางามสะดุดตาเลยค่ะ
ในส่วนของกล้องที่ OPPO ให้มา
กล้องหลัง

OPPO F11 Pro มาพร้อมกับกล้องหลังคู่ Dual Camera โดยที่กล้องตัวแรกนั้นความละเอียดอยู่ที่ 48 ล้านพิกเซล และรูรับแสง f/1.79 ส่วนกล้องรองให้ความละเอียดมาที่ 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ทำให้ถ่าย Portrait ในที่แสงน้อยได้ดี ลดการเกิด noise ซึ่งตัว F11 Pro ยกระดับ AI สามารถระบุฉากได้ถึง 23 ชนิด
กล้องหน้า

ส่วนกล้องหน้าของ OPPO F11 Pro ออกแบบมาให้เป็นแบบซ่อนกล้องหรือ Rising Camera เวลาที่ต้องการ Selfie ตัวกล้องจะเลื่อนขึ้นมา โดยความละเอียดของกล้องหน้าอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 อีกทั้งยังมี AI Beauty สำหรับถ่ายภาพ สาวๆถ่ายยังไง มุมไหนก็สวยแน่นอนค่ะ

ซึ่งเห็นเป็นกล้อง Rising Camera แบบนี้ ทาง OPPO เขาคิดระบบความปลอดภัยสำหรับตัวกล้องมาให้ด้วย เพราะถ้าหากในขณะที่เราเปิดกล้องหน้าอยู่ แต่ดันเผลอทำโทรศัพท์หลุดมือ ตัวกล้องจะเลื่อนลงให้อัตโนมัติ ป้องกันการเกิดความเสียหายแก่ตัวกล้องไม่ให้แตกหักนั่นเองค่ะ
เรื่องกล้องผ่านไป มาต่อกันที่สเปคกันค่ะ

OPPO F11 Pro มีระบบปฏิบัติการ Color OS6 แบบใหม่ที่ใช้ใน Android 9.0 ทำให้จอแสดงผลได้ภาพที่สวยงามดูน่าหลงใหล อีกทั้งยังมี Hyper Boost ช่วยให้ประสิทธิภาพความเร็วในการตอบสนองเพิ่มถึง 30%
และมาพร้อมกับ VOOC 3.0 เทคโนโลยีที่ชาร์จเร็วขึ้นกว่าเดิม 20% ตัวเทคโนโลยีนี้ได้รับการรับรองจาก TUV Rheinland ซึ่งได้รับการยอมรับจากองค์กรระหว่างประเทศชั้นนำในด้านความปลอดภัยและความรวดเร็ว นอกจากจะชาร์จแบตเร็วแล้ว ความจุของแบตเตอรี่ รอบนี้ให้มาถึง 4,000 mAh อึดทนเล่นกันได้ยาวๆเลยค่ะ

สำหรับใครที่อยากได้ เขาวางจำหน่ายวันที่ 28 มีนาคม ราคา 10,990 บาท ถือว่าเทียบราคากับประสิทธิภาพแล้ว ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียวค่ะ