เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทีมงานลดา ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์ มร. K.M. Leong General Manager of Southeast Asia, Xiaomi International เกี่ยวกับ “วิสัยทัศน์และพันธกิจของแบรนด์เสียวหมี่ และแนวทางดำเนินธุรกิจในปี 2021”
Xiaomi ถูกก่อตั้งในปี 2010 นับเป็นแบรนด์ที่เพิ่งก่อตั้งไม่นาน แต่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งในตลาดสมาร์ทโฟน และตลาดอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ (IoT) ผ่านแอปพลิเคชั่น Mi Home ซึ่งมีผู้ใช้งานกว่า 200 ล้านบัญชี
MIUI ที่เป็นซอฟแวร์ของ Xiaomi ทำงานร่วมกับ Android ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีและเติบโตอย่างรวดเร็ว เริ่มต้นจาก 100 ผู้ใช้งานในจีน ไปสู่ผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลกภายในระยะเวลาไม่กี่ปี
นอกจากนี้ Xiaomi ยังมุ่งหวังที่จะผลิตสมาร์ทโฟนสเปกแรง คุณภาพสูง ในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยี จีงได้ผลิตสมาร์ทโฟน Mi 1 ในปี 2011 ด้วยสเปกที่จัดเต็ม และราคาที่ย่อมเยาว์ Mi phone จึงครองตลาดสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ในจีนภายในเวลาเพียง 3 ปี (2014) และกำลังจะเปิดตัวรุ่นใหม่ Mi 11 ในประเทศไทยเร็ว ๆ นี้
ซึ่งในมือถือรุ่นใหม่ที่จะวางขายในปีนี้ Xiaomi จะเป็นมือถือที่รองรับ 5G ในราคาเข้าถึงได้ เพื่อให้ใคร ๆ ก็สามารถใช้ 5G ได้ โดยตั้งเป้าที่จะครองตลาด 5G Smartphone อันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย
ภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia) ก็นับเป็น Top 3 ตลาดต่างประเทศของแบรนด์ Xiaomi รองจาก ยุโรปและละตินอเมริกา
โดยในปี 2021 นี้ Xiaomi มีแนวทางในการดำเนินธุกิจในประเทศไทย ดังนี้
1. ขยายกิจการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มสาขา จาก 36 สาขาเป็น 100 สาขา รวมถึงเพิ่มช่องทางการสั่งซื้อสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ แถม Xiaomi กำลังจะเปิดตัวสาขาใหญ่ที่เซ็นทรัลบางนา ในรูปแบบ one-stop-service ครบวงจร นอกจากจะเป็นจุดขายสินค้าแล้ว ยังเป็นศูนย์บริการหลังการขายอีกด้วย
2. พัฒนาแบรนด์
เพื่อให้คนรู้จักแบรนด์ Xiaomi อย่างเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น Xiaomi ตั้งเป้าที่จะเพิ่มการตลาดมากขึ้นจากเดิมเป็น 2 เท่า และมีการปล่อย product ออกมาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ตั้งเป้าว่าจะปล่อยอุปกรณ์ในกลุ่ม Mi Home ใหม่ ๆ ในทุกเดือน
นอกจากนี้ Xiaomi ยังใส่ใจผู้ใช้งาน และรักษา Community แฟนคลับเป็นอย่างดี โดย Mi Community นั้นมีสมาชิกหลายล้านคนทั่วโลก และมีกลุ่มใน Facebook ของแต่ละประเทศ Xiaomi ยังคงรักษาจุดแข็งนี้ไว้ และดูแลฐานแฟนคลับอย่างต่อเนื่อง
3. บริการหลังการขาย
แน่นอนว่าการดูแลหลังการขายเป็นสิ่งสำคัญ ในปี 2021 ในประเทศไทยจะมีศูนย์บริการหลังการขายเพิ่มจาก 12 แห่ง เป็น 25 แห่ง และจะเปิดตัวศูนย์บริการใหญ่เร็ว ๆ นี้ รวมถึงอาจมีบริการการรับไปซ่อมถึงบ้านด้วย
นอกจากสมาร์ทโฟนแล้ว Xiaomi ใส่ใจและพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยลงทุนในการการวิจัยและการพัฒนา (Research and Development) สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในชีวิตประจำวันไปกว่า 18 พันล้านเหรียญ ทำให้ Xiaomi สามารถออกแบบและพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อยู่เสมอ
ซึ่งในปี 2021 Xiaomi ก็ยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่น่าสนใจกำลังจะเปิดตัวอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดูดฝุ่นอัจฉริยะ Mi TV รวมไปถึง Smart Speaker ก็มารอดูกันค่ะ ว่าจะเปิดตัวให้พวกเราได้จับจองกันเมื่อไร แต่ขึ้นชื่อว่าเสียวหมี่แล้ว การันตีว่าเป็นสินค้าคุณภาพดี สเปกจัดเต็ม ในราคาที่เข้าถึงได้แน่นอน