อีเว้นท์ WWDC เป็นงานของนักพัฒนาที่เน้นเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ และทุกปี Apple ก็จะมีฟีเจอร์เด่น ๆ มาโชว์เราเสมอ ๆ คราวนี้ Apple ก็จัดฟีเจอร์เด็ด ๆ มาอวดเราเพียบแถมเน้นความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวยิ่งกว่าเดิม แต่จะให้ไปเปิดดูคลิปงานย้อนหลังก็กินเวลา ดังนั้นเฟื่องเลยสรุปมาให้ทุกคนอ่านกันง่าย ๆ ว่าคราวนี้เขามีอะไรใหม่บ้าง ส่วนใครอยากดูเป็นคลิปก็กดที่นี่ได้เลยนะคะ
1. iOS 13
- ฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพียบ! แต่รุ่นที่ Update ได้คือ iPhone 6s, iPhone SE ขึ้นไป
- เพิ่ม Dark mode เน้นถนอมสายตา, ประหยัดไฟ
- เรียงภาพใน Photos ใหม่ด้วย AI ตามเวลา, สถานที่ที่ถ่ายภาพและอีเว้นท์ที่เกี่ยวข้อง
- ถ่ายวิดีโอแนวตั้งสามารถแก้ไขให้กลับเป็นแนวนอนได้แล้ว
- แชร์เพลงที่ฟังอยู่ใน AirPods ของเราให้ AirPods เพื่อนได้ทันที ไม่ต้องถอดหูฟังเหมือนก่อน
- คีย์บอร์ดมีระบบ Swift ลากนิ้วบนแป้นเพื่อพิมพ์ได้
2. iPadOS
- ออกแบบให้ทำงานได้เหมือนคอมพิวเตอร์มากขึ้น
- เพิ่มฟังก์ชั่นให้ Safari แสดงผลเว็บระดับ Desktop
- Files แบ่งกลุ่มไฟล์เป็นคอลลัมภ์ หน้าตาคล้าย Mac แต่ยังใช้ง่ายแบบ iPad
- ต่อ USB, ฮาร์ดดิสก์แยกเพื่อเซฟข้อมูลได้
- Drive Sharing ต่อเข้า iCloud, Google Drive
- Gesture ใหม่เพียบ!
- เปิดแอปฯ เดียวกันแบ่งเป็นสองจอได้ เช่นเปิดโน้ตคู่กัน และแอปฯ อื่นที่ไม่ใช่ Apple เช่น Microsoft Word ก็รองรับแล้ว
3. Mac Pro, Pro Display XDR
- เครื่องแรงมาก! RAM ใส่ได้มากสุดที่ 1.5TB, ชิปเป็น Intel Xeon 28-Core
- จอ XDR เป็นจอ Retina Display แสดงผลดีกว่าจอ HDR 4 เท่า ความละเอียด 6K แต่ขาตั้งจอขายแยก
- ราคา Mac Pro เริ่มที่ $5999 ตีเป็นเงินไทยเกือบสองแสน อัปเกรดเต็มอยู่ที่ 1.5 ล้านบาท
4. macOS “Catalina”
- Sidecar เปลี่ยน iPad เป็นจอเสริมให้ Mac ได้แล้ว พร้อมกับฟีเจอร์อื่น ๆ อีกเพียบ
5. Sign in with Apple
- ใช้ Apple ID เชื่อมต่อกับบริการต่าง ๆ และแชร์ข้อมูลพื้นฐานให้บริการภายนอกแค่เล็กน้อย
- ซ่อนเมล์จริงให้เรา เอาใจคนที่ไม่อยากให้ข้อมูลหลุด
6. watchOS
- มี App Store ของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องโหลดแอปฯ ด้วย iPhone เสมอไปแล้ว
- ใช้ฟัง Podcast, เครื่องคิดเลข, อัดเสียงต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง
7. Memoji
- แต่งสีหน้าสีผม เพิ่มเครื่องประดับได้ตามสไตล์เรา
- ใช้ Memoji เป็น Emoji ใน Keyboard ส่งให้เพื่อนได้ด้วย
8. Health
- Apple Watch ช่วยเตือนเราเมื่อที่ที่เราอยู่เสียงดัง เป็นอันตรายต่อหู
- แอปฯ Health ใช้จดรอบเดือนได้เพื่อวางแผนสุขภาพได้รัดกุมยิ่งขึ้น
9. Developer
- SwiftUI ช่วยให้เขียน Code ง่ายขึ้น เลือกชุด Code สำเร็จมาวางได้ไม่ต้องเริ่มเขียนแต่แรก
- Motion Capture ได้ แค่ใช้กล้องส่อง ตัวการ์ตูนจะขยับตามเราอัตโนมัติ เน้นกับงานพัฒนาแอปฯ AR
สำหรับใครที่อยากใช้ iOS 13 ต้องอดใจรอหน่อยค่ะ เพราะเขาจะเปิดเวอร์ชั่นสมบูรณ์พร้อมกับ iPhone รุ่นใหม่ในเดือนกันยายนเลย แต่ถ้าใครจะลองแบบ Beta ก็ Backup เครื่องให้เรียบร้อยก่อน จะได้ดึงข้อมูลเก่าของเรากลับมาได้ด้วย บอกเลยว่างานนี้ Apple จัดเต็มจริง ๆ