หลายคนที่ใช้สมาร์ทโฟน Huawei และติดตามข่าว Google แบน Huawei ทั้งในไทยและต่างประเทศคงรู้สึกเซ็งและกังวลต่อการใช้งานเพราะไส้ในระบบปฏิบัติการของหัวเหว่ย คือ Android ซึ่งเจ้าของคือ Google เรื่องนี้ส่งผลกระทบแน่นอน
แม้ข่าวล่าสุด (21 พ.ค.2562) รัฐบาลสหรัฐฯ จะออกมาระงับคำสั่งแบน Huawei และให้บริษัทต่างๆ ยังทำการค้าร่วมกับหัวเว่ยได้ต่อไปอีก 90 วัน
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นแค่นโยบายเยียวยาชั่วคราวเท่านั้น ยังไม่มีอะไรเป็นเครื่องการันตีได้ว่า Google จะกลับมาซัพพอร์ตหัวเว่ยต่อ (แม้เรื่องนี้อาจกระทบกับ Google โดยตรงเช่นกันก็ตาม เพราะหัวเว่ยเป็นมือถือที่มีมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก) คำถามที่หลายคนสงสัยคือ แล้วในฐานะผู้ใช้งานอย่างเราๆ เรื่องนี้ส่งผลอย่างไร และเราต้องรับมืออย่างไรบ้าง วันนี้เรามาตอบข้อสงสัย และมีคำแนะนำมาให้ดังนี้ค่ะ
1. อย่าเพิ่งตื่นตระหนก
อันดับแรก ถ้าใครใช้หัวเว่ยอยู่ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกหรือวิตกกังวลจนเกินไปค่ะ แนะนำให้เสพข่าวอย่างมีสติ เพราะสถานการณ์มีโอกาสเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เห็นได้จากหลัง Google ประกาศแบน Huawei ไป
แค่ช่วงข้ามคืน รัฐบาลสหรัฐฯก็ใจอ่อน ออกใบอนุญาตชั่วคราวให้หัวเว่ยดำเนินธุรกิจกับบริษัทในสหรัฐฯ ได้ต่อไปอีก 90 วัน
2. ติดตามข่าวอย่างต่อเนื่อง
จากความไม่แน่นอนระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับหัวเว่ย ที่ยังไม่รู้ว่าจะออกหน้าไหน ฉะนั้นการติดตามข่าวอย่างต่อเนื่องจึงเป็นหนทางที่ผู้บริโภคพอทำได้ เพื่อให้รู้เท่าทันถึงทิศทางของทั้งสองฝั่งที่จะเกิดขึ้น และเตรียมแผนรับมือต่อเหตุการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อการใช้สมาร์ทโฟน Huawei
3. สมาร์ทโฟน Huawei ทุกรุ่นยังใช้ทุกบริการของ Google ได้ตามเดิม
ในตอนนี้ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Huawei ทุกรุ่นในปัจจุบัน สบายใจได้ว่าทุกบริการของ Google ยังใช้งานได้ตามปกติ เช่นเดียวกับการอัพเดทซอฟต์แวร์ด้านความปลอดภัยจากฝั่ง Google
ส่วนสมาร์ทโฟน Huawei รุ่นใหม่ๆ ที่เตรียมเปิดตัวหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อไปคงต้องติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด
4. ใช้บริการอื่นๆ ทดแทนบริการของ Google
เชื่อว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ยคุ้นเคยกับการใช้บริการของ Google เป็นอย่างดีและแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันไปแล้ว เช่น Google Maps, YouTube หรือ Gmail เป็นต้น แน่นอนว่าหาก Google แบน Huawei นั่นหมายถึงว่าบริการเหล่านี้จะใช้งานไม่ได้ทันที ซึ่งทางเลือกที่อาจดูยากและผู้ใช้ต้องปรับตัวขนานใหญ่ คือ การดาวน์โหลดแอพอื่นๆ มาใช้แทนที่ หรือย้ายไปใช้ OS ของหัวเว่ยที่ผลิตขึ้นมาเองแทน
5. เปลี่ยนสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่
ขอยกให้เป็นวิธีสุดท้ายที่อยากแนะนำ เพราะเชื่อว่ามีหลายคนที่เพิ่งถอย Huawei P30 Pro มาหมาดๆ วิธีนี้น่าจะไม่ใช่เรื่องที่สะดวกเท่าไหร่ แต่หากในอนาคตหัวเว่ยไม่สามารถใช้บริการทั้งหมดของ Google ได้อีกต่อไป และให้ปรับตัวยังไงเราก็ไม่ชิน การมองหาสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นทดแทนก็อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยลดผลกระทบต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันให้น้อยที่สุดค่ะ
ทางเลือกของ Huawei มีอะไรบ้าง ?
หากมาตรการแบน Huawei มีผลบังคับใช้ทันที ทางเลือกของหัวเว่ยที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเวลาคงเป็นการพัฒนาระบบปฏิบัติการใช้เอง โดยระบบดังกล่าวมีชื่อว่า “Hongmeng” ซึ่งรายงานข่าวระบุว่า Huawei เตรียมการไว้หลายปีแล้ว ส่วนรายละเอียดของระบบปฏิบัติการดังกล่าวยังไม่เปิดเผยในเวลานี้
ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Huawei อยู่แล้ว และกำลังจะซื้อควรทำอย่างไร ?
สำหรับสมาร์ทโฟน Huawei รุ่นใดๆ ก็ตามที่ผู้ใช้ถือครองอยู่ ในเวลานี้จะสามารถใช้บริการทั้งหมดของ Google ได้ต่อไป หากมีอัพเดทระบบปฏิบัติการหรือซอฟต์แวร์ความปลอดภัยจาก Google จะสามารถอัพเดทได้ตามปกติ ส่วนใครที่มีแผนซื้อสมาร์ทโฟน Huawei แนะนำว่าให้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด เพราะเราไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ และก่อนจะซื้อควรคำนึงถึงการใช้งานมากกว่าราคาและสเปก
อัพเดทล่าสุดจากฝั่ง Huawei
ทั้งนี้ จากความคืบหน้ารัฐบาลสหรัฐฯ ออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ Huawei ดำเนินธุรกิจกับบริษัทในสหรัฐฯ ได้ต่อไปอีก 90 วัน Ren Zhengfei ซีอีโอของ Huawei ออกมาตอบโต้ทันทีว่าการต่ออายุ 90 วัน ไม่ได้มีความหมายใดๆ เลย ซึ่ง Huawei มีแผนสำรองเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวไว้แล้ว