หลังจากเปิดตัวไปก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม สำหรับ Huawei P20 และ P20 Pro โดยเฉพาะ P20 Pro ถือเป็นสมาร์ตโฟนอัจฉริยะที่มาพร้อมกับกล้องหลัง 3 ตัว ที่พัฒนาควบคู่กับ Leica และที่สำคัญคือการนำเทคโนโลยีชั้นยอดอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใส่ไว้อย่างลงตัว เฟื่องพูดได้เต็มปากเลยว่า นี่คือสมาร์ตโฟนที่กล้องเทพที่สุดในตอนนี้ค่ะ นอกจากกล้องแล้ว Huawei P20 Pro จะมีจุดเด่นอะไรบ้างเรามาดูกันเลยค่ะ
จุดเด่นของ Huawei P20 Pro
- Huawei AIS (AI Image Stabilization) ระบบกันสั่นรุ่นใหม่ที่ใช้ AI เข้ามาช่วย
- ซูมแบบไฮบริด 5 เท่า
- รองรับการถ่ายวิดีโอ Super Slow Motion 960 fps
- กล้องหน้าความละเอียด 24 ล้านพิกเซล มีโหมด 3D Portrait Lightning
- IP 67 กันน้ำลึก 1 เมตร ไม่เกิน 30 นาที
- ลำโพงสเตอริโอ พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos
- รองรับ 2 SIM เป็น 4.5G ทั้งสองซิม
- แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับ SuperCharge
การออกแบบ
Huawei P20 Pro จะมีการออกแบบที่แตกต่างไปจากสมัย P9 และ P10 พอสมควรเลย โดย P20 Pro ดีไซน์เป็นแบบ Symmetry ให้ความสมมาตรและความโค้งมน ทำให้ตัวเครื่องเข้ากับรูปมือมากยิ่งขึ้น ถือไปที่ไหนก็ดูแพงแน่นอนค่ะ
สีที่ทำออกมาขายก็ได้แรงบันดาลใจมาจากสีของธรรมชาติ มีทั้งหมด 4 สีได้แก่ Twilight (ม่วงเขียว) , Pink Gold (สีชมพูไล่เฉด) ,Midnight Blue (สีน้ำเงิน) และ Graphite Black (สีดำ)
มารอบนี้ไม่ว่าเราจะเลือกซื้อสีอะไร กระจกด้านหน้าจะเป็นสีดำทั้งหมดแล้วค่ะ ดูจากรูปจะเห็นว่า หน้าจอมีรอยแหว่งด้วย แต่น้อยกว่าของ iPhoneX ทำให้มีพื้นที่แสดงสถานะต่าง ๆ ได้มากกว่า โดย iPhoneX แสดงได้แค่เวลากับแบตเตอรี่แต่ Huawei P20/P20 Pro แสดงได้ทุกอย่างเลยค่าาา
รุ่นที่เฟื่องถืออยู่คือ Huawei P20 Pro ค่ะ มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.1 นิ้วเป็นจอแสดงผลแบบ OLED ให้การแสดงผลที่สวยงามเต็มตามาก ๆ
ด้านหลังตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นกระจกนะคะ เหมือนกับตอน Mate 10 เสียดายติดรอยนิ้วมือง่ายไปหน่อยย
กล้องใหม่ 3 ตัวจาก LEICA
อย่างที่เกริ่นไปว่า Huawei P20 Pro ยังคงจับมือกับ Leica เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีกล้องเข้ามาอีกตัวจากปกติที่เป็นกล้องคู่ มาคราวนี้กลายเป็น 3 กล้องแล้วค่าา ประกอบไปด้วย….ดังนี้ค่ะ
Huawei P20 Pro
- กล้อง RGB ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.8
- กล้อง Monochrome ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.6
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4
AI ช่วยถ่ายภาพอย่างไร ?
Huawei P20 และ P20 Pro ได้นำเทคโนโลยี AI มาช่วยในการถ่ายรูปมากขึ้น ไม่ว่าเราจะถ่ายรูปไม่เก่งหรือไม่เป็นเลย AI จะช่วยทำให้ภาพที่เราถ่ายออกมาดูดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น การเซลฟี่, จัดวางองค์ประกอบภาพ, การกำหนดวัตถุฉากหลังว่าคืออะไร และการปรับสมดุลสีของภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้ AI ก็จะปรับแสง สี ให้ภาพเราอัตโนมัติ ไม่ว่าจะถ่ายคนหรือถ่ายวิวก็ช่วยให้เราได้ภาพที่ประทับใจทั้งหมด เดี๋ยวเราไปดูตัวอย่างกันค่ะ
มาดูกันที่กล้องหน้าบ้าง ซึ่งรุ่นนี้มาพร้อมกับความละเอียด 24 ล้านพิกเซลถือว่าสูงมากกก เมื่อเทียบกับกล้องในระดับ Hi-End แม้จะเป็นการถ่ายภาพย้อนแสงก็สามารถเก็บรายละเอียดได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ จากรูปด้านล่างนะคะ
เอามาให้ดูประมาณนี้ก่อนนะคะ ไว้ทำรีวิวเต็ม ๆ จะไปลองถ่ายรูปหลาย ๆ สถานการณ์มาให้ดูกันอีกค่ะ
สเปค
ทั้ง 2 รุ่นนั้นถึงจะมีการออกแบบที่คล้ายกันแต่กลับมีสเปคที่แตกต่างกันออกไปเช่น ขนาดหน้าจอ ชนิดของจอแสดงผล แบตเตอรี่ และกล้อง
สเปค Huawei P20
- ใช้หน้าจอ RGBW ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 18.7:9
- ชิปประมวลผล Kirin 970 + NPU
- Ram 4 GB Rom 128 GB
- กล้องคู่
- RGB ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.8
- กล้อง Monochrome ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.6
- ลำโพงสเตอริโอ พร้อม Dolby Atmos
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม Dual 4G/ Dual VoLTE
- แบตเตอรี่ความจุ 3,400 mAh
สเปค Huawei P20 Pro
- หน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตราส่วน 18.7:9
- ชิปประมวลผล Kirin 970 + NPU
- Ram 6 GB ROM 128 GB
- กล้อง
- กล้อง RGB ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.8
- กล้อง Monochrome ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/1.6
- กล้อง Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.4
- ลำโพงสเตอริโอ พร้อม Dolby Atmos
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด Dual 4G/ Dual VoLTE
- แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh
สรุป
ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าจับตามองมาก ๆ ในเวลานี้ ใครที่สนใจเก็บตังค์รอได้เลยค่ะ เฟื่องเชื่อว่า Huawei มีแผนจะนำ Huawei P20/ P20 Pro มาขายในไทยเร็ว ๆ นี้แน่นอน แอบแว่วมาว่าราคาอาจจะพอ ๆ กับรุ่นพี่อย่าง Mate 10 Pro ด้วย ส่วนใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะซื้อดีมั้ย รอรีวิวตัวเต็มได้เลยค่ะ แต่ตอนนี้ขอตัวไปลองเล่นเครื่องก่อนนะคะ ถ้าใครอยากรู้อะไรเกี่ยวกับ Huawei P20/ P20 Pro ก็สามารถมาคอมเมนต์ถามกันได้ค่าาา