ใกล้เปิดตัวเต็มทีแล้วนะคะสำหรับ iPhone 12 ที่เหล่าสาวกรอคอย ระหว่างนี้ก็มีข่าวหลุด ภาพเรนเดอร์หน้าตาเครื่องออกมาล่อตาล่อใจเหลือเกิน ใครที่เกิดคำถามว่าจะซื้อรุ่นเก่าตอนนี้เลย (มือถือในมือจะพังแล้ว) หรือกลั้นใจรอต่ออีกไม่กี่เดือน เพื่อสิ่งที่ดีกว่า? เราสรุปสเปกหลุดของ iPhone 12 มาให้แบบเน้น ๆ จะได้รู้กันไปเลยว่ารอ/ไม่รอ ไปต่อหรือพอแค่นี้ 555 ไปดูกันค่ะ
ดีไซน์ขอบเหลี่ยมแบบ iPhone 4
Credit: EVERYTHINGAPPLEPRO
ดีไซน์ตัวเครื่องจะว่าใหม่ก็ไม่เชิงนะคะ เพราะด้วยความเหลี่ยม ๆ นี้เหมือนกับ iPhone 4, iPhone 5 เลยแต่ขยายขนาดขึ้นมาหน่อย และวางกล้องแบบเดียวกับ iPhone 11 ถ้าเทียบตัวเครื่องเปล่า ๆ ทั้ง iPhone 11 และ iPhone 12 ก็ต่างกันอยู่นะคะ แต่ถ้าใส่เคสนี่สิ ถ้าไม่ใช่ iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ที่มี 4 กล้อง ก็แทบแยกไม่ออกว่านี่รุ่นไหนกันแน่ ถ้าอยากให้ทุกคนรู้ว่านี่คือ The new iPhone ก็ต้องถือเครื่องเปล่าไปอวดแล้วล่ะค่ะ (แต่ไม่เสี่ยงดีกว่า กลัวเครื่องเป็นรอย 555) โดย iPhone 12 Series คาดว่าจะออกมาทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
Credit : phonearena
- iPhone 12 ขนาด 5.4 นิ้ว (เท่ากับ iPhone SE 2020)
- iPhone 12 Max ขนาด 6.1 นิ้ว (เท่ากับ iPhone 11)
- iPhone 12 Pro ขนาด 6.1 นิ้ว (เท่ากับ iPhone 11)
- iPhone 12 Pro Max ขนาด 6.7 นิ้ว (เท่ากับ iPhone 11 Pro Max)
ทั้ง 4 รุ่นต่างกันยังไง
ภาพ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น Credit : EVERYTHINGAPPLEPRO
-
iPhone 12 และ iPhone 12 Max ต่างที่ขนาด จุดที่เหมือนกันคือ
- กล้อง : กล้องหลัง 2 เลนส์ ประกอบด้วย เลนส์ Wide, UltraWind
- หน้าจอ : BOELED Super Retina Display
- RAM : 4 Gb
- วัสดุ : อะลูมิเนียม
-
iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ต่างที่ขนาด จุดที่เหมือนกันคือ
- กล้อง : กล้องหลัง 4 ตัว ประกอบด้วย เลนส์ Wide, UltraWind, Telephoto และเพิ่ม LiDAR Scanner มา (เหมือน iPad Pro 2020) กล้องหลัง Optical Zoom 3 เท่า (เดิมซูมได้ 2 เท่า)
- หน้าจอ : Samsung LED Super Retina XDR Display
- รองรับค่า Refresh rate 120 Hz เรียกว่า Pro Motion ทำให้รองรับได้ถึง 120 fps ทำให้การเล่นเกม ดูหนัง ภาพชัดและสมูทขึ้น (ค่าเริ่มต้นเป็น 60 fps แต่ปรับให้เป็น 120 fps ได้)
- RAM : 6 Gb
- แบตเตอรี่ : 4400 mAh
- วัสดุ : สแตนเลส เหมือนรุ่น iPhone 11 Pro, Pro Max
สเปก แรงขึ้นกว่าเดิม
- ชิปเซ็ต A14 Bionic
- รองรับ 5G แล้วจ้า (สิ้นสุดการรอคอย! ดีใจ)
- กล้องมีกันสั่นดีกว่า iPhone 11 ถ่ายวิดีโอได้นิ่ง ๆ แทน GoPro ได้
- มี Night Mode เหมือนเดิม แต่พัฒนาให้ดีกว่าเดิม
- ไม่มีหูฟังมาให้ (แต่ไม่แน่อาจจะมีโปรฯ ซื้อพร้อม Airpods)
ราคาดีกว่าเดิม
- iPhone 12 (5.4”)
-
- 128GB ราคา $649 ประมาณ 20,800 บาท
- 256GB ราคา $749 ประมาณ 24,000 บาท
- iPhone 12 Max (6.1”)
-
- 128GB ราคา $749 ประมาณ 24,000 บาท
- 256GB ราคา $849 ประมาณ 27,300 บาท
- iPhone 12 Pro (6.1”)
-
- 128GB ราคา $999 ประมาณ 32,800 บาท
- 256GB ราคา $1099 ประมาณ 35,000 บาท
- 512GB ราคา $1299 ประมาณ 41,000 บาท
- iPhone 12 Pro Max (6.7”)
-
- 128GB ราคา $1099 ประมาณ 35,000 บาท
- 256GB ราคา $1199 ประมาณ 38,500 บาท
- 512GB ราคา $1399 ประมาณ 45,000 บาท
วันเปิดตัว
iPhone 12 คาดว่าน่าจะเปิดตัวในเดือนกันยายนนี้ (ไม่ทราบวันเวลาที่ชัดเจน) ในรูปแบบ Live streaming ทางช่องทางออนไลน์ (รับกับสถานการณ์) แต่เราอาจจะไม่ได้เห็นเครื่องจริงในวันเปิดตัวด้วยปัญหาความล่าช้าด้านการขนส่งและออกแบบ โดยลือว่าเครื่องจริงน่าจะมาในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนนี้
สรุป รอ/ไม่รอ
ย้ำอีกครั้งนะคะ ทั้งสเปกและรูปร่างหน้าตาเครื่องที่เราเอามาให้ดูกัน เป็นเพียงข่าวลือ ข่าวหลุด และการคาดการณ์เท่านั้น อาจจะมีคลาดเคลื่อนบ้าง แต่หลัก ๆ แล้วสเปกดีขึ้น ชิปเซ็ตใหม่ รองรับ 5G กล้องพัฒนาขึ้น แถมได้ยินมาว่ารุ่นนี้จะออกสีใหม่สวย ๆ มาอีกแล้ว รอยบากที่หน้าจอก็จะเล็กลงด้วย ใครที่คิดว่าจะซื้อ iPhone 11 ตอนนี้ ส่วนตัวเราคิดว่าถ้าเป็นสายชอบเทคโนโลยีใหม่ ๆ แนะนำว่าให้รอดีกว่านะคะ บอกมือถือในมือให้ทนอีกนิด จะได้ไม่เสียใจทีหลัง หรือใครเล็ง ๆ ไว้อยากได้มือถือรองรับ 5G สักเครื่อง iPhone 12 ก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดี ราคาเริ่มต้นไม่สูงมาก อดใจรอกันสักหน่อยนะคะ แล้วเรามารอดูไปพร้อม ๆ กัน