6 จุดเด่นของ K PLUS ใหม่ที่ทำให้ชีวิตดี๊ดี
ช่วงนี้มีหลายธนาคารได้ออกมาปรับโฉมตัวเองใหม่ ให้มีความเป็น Lifestyle และเน้นตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในหลายแง่มุมได้มากยิ่งขึ้น โดยที่ธนาคารจะไม่เน้นแค่การทำธุรกรรมบนมือถือเพียงอย่างเดียว แต่ครอบคลุมไปถึงการบริการต่างๆ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นในทุกด้าน ซึ่ง 1 ในนั้นที่ทำได้โดดเด่นก็คือ ผู้นำด้านธนาคารดิจิทัลอย่าง “ธนาคารกสิกรไทย”
และเมื่อไม่นานมานี้ ทุกคนน่าจะเห็นข่าวการเปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ของ K PLUS ภายใต้คอนเซปต์ที่ว่า “เปลี่ยนเพื่อรู้ใจขึ้น” โดยการเปลี่ยนแปลงครั้งแรก เรียกได้ว่าสั่นสะเทือนวงการธนาคารและไอทีอย่างมากเลยทีเดียว เรามาดูกันค่ะว่า 6 จุดเด่นของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มีอะไรบ้าง ที่ทำให้ชีวิตดี๊ดี ….
1. รูปแบบใหม่ ใช้งานง่ายขึ้น !!
อย่างแรกที่ชอบมาก คือหน้าตาแอปที่เปลี่ยนใหม่แบบยกแผง มีความเป็นดิจิทัล ดูสบายตามากยิ่งขึ้นด้วยพื้นหลังสีขาวนั่นเอง และมีการจัดแบ่งโซนต่างๆ ให้ใช้งานง่าย สะดวกสบายมากขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น…
K+ TODAY ที่จะแนะนำรายการธุรกรรมที่สำคัญและทำบ่อย โปรโมชัน ร้านค้าโปรด และส่วนลดจากร้านค้าต่างๆ ใน K+ Market ที่ตรงตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้แต่ละคน
K+ Market พื้นที่สำหรับการซื้อของออนไลน์ในราคาพิเศษของผู้ใช้จากทั่วประเทศ จุดที่น่าสนใจคือสามารถนำคะแนนสะสมในบัตรเครดิตกสิกรฯ มาใช้แทนเงินได้ โดยทุกๆ 1,000 คะแนน มีมูลค่า 100 บาท
MY FAVORITE ที่สามารถเพิ่มบุคคลที่ต้องทำธุรกรรมด้วยบ่อยๆ ไว้ในรายการโปรด แถมยังใส่รูปให้แต่ละรายการได้ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาและทำให้แอปดูสวยงาม น่าใช้ขึ้นอีกด้วย
ปุ่มธุรกรรม จะโอนเงิน เติมเงิน จ่ายบิล หรือทำธุรกรรมทางการเงินอื่นๆ ก็จะใช้งานง่ายมากขึ้นด้วย “ปุ่มธุรกรรม” เมื่อกดเข้าไปก็จะพบกับการบริการธุรกรรมต่างๆ มากมายโดยที่ไม่ต้องเข้า-ออกหลายขั้นตอนให้ลำบาก
2. e-slip รูปแบบใหม่ มี QR Code แล้ว
ความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ถือเป็นความตั้งใจอย่างหนึ่งที่ธนาคารกสิกรไทยมุ่งหวังให้เกิดขึ้นกับลูกค้าทุกคน จึงได้มีการออกแบบ e-slip รูปแบบใหม่ที่มี QR Code เพิ่มเข้ามา และให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ว่า “มีการทำธุรกรรมเกิดขึ้นจริง” ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการโกงนั่นเอง
โดยวิธีการตรวจสอบ e-slip ก็ง่ายมากๆ ทำได้ด้วยการ บันทึก e-slip ไว้ใน Gallery จากนั้นกดปุ่ม Scan ในแอป สุดท้ายตรวจสอบสถานะของ e-slip ว่าตรงกับที่รับแจ้งหรือไม่ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอน
3. การถอนเงินจากตู้ ATM โดยไม่ใช้บัตร
ต่อไปนี้ถ้าลืมบัตร ATM ก็ไม่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไป เพราะเราสามารถระบุจำนวนเงินที่ต้องการผ่านทางแอปพลิเคชันได้เลย โดยสามารถทำได้ตามขั้นตอนต่อไปนี้
1.1 กดปุ่ม “ธุรกรรม” และ “ถอนเงิน”
1.2 เลือกจำนวนเงินที่ต้องการถอน
1.3 ไปที่ตู้ ATM แล้วเลือก “ถอนเงินไม่ใช้บัตร”
1.4 ใช้แอปพลิเคชันสแกน QR Code ที่ตู้ ATM
1.5 กดปุ่มยืนยัน พร้อมรับเงินและสลิป
โดยตอนนี้สามารถถอนเงินโดยไม่ใช้บัตรได้สูงสุด 50,000 บาท/วัน
4. การเพิ่มบัตรสมาชิกที่ใช้ประจำเพื่อสะสมคะแนน หรือเพื่อใช้แทนบัตรพลาสติก
การพกบัตรสมาชิก หรือการบอกเบอร์โทรศัพท์มือถือก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะ K PLUS แบบใหม่สามารถเพิ่มรายการบัตรสมาชิกที่ใช้งานเป็นประจำ อย่าง PTT Blue Card และ The 1 Card ลงไปในแอปพลิชันได้แล้ว เมื่อต้องการใช้งาน ก็สามารถเปิดแอปพลิเคชันให้กับพนักงานสแกนได้เลยทันที
5. การตั้งเวลาการโอนเงินล่วงหน้า
หมดความกังวลไปได้เลยถ้าหากจำเป็นต้องโอนเงินเป็นเวลา แต่กลัวลืม !? เพราะ K PLUS สามารถตั้งเวลาที่ลูกค้าต้องการโอนเงินได้แล้ว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน ตั้งล่วงหน้าได้นานถึง 1 ปี ช่วยทำให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายในการทำธุรกรรมมากขึ้นอีกขั้น
6. การใช้งานผ่าน Wi-Fi ได้ทุกฟังก์ชัน ทุกเวลา
ปัญหาที่ใครหลายคนชอบบ่นกันบ่อยๆ ว่า “ทำไมเข้าแอปฯทำธุรกรรมผ่าน Wi-Fi ไม่ได้สักที ?” จะหมดไป
นั่นก็เพราะ K PLUS ได้พัฒนาให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้เองแล้วว่าต้องการทำธุรกรรมผ่านรูปแบบอินเทอร์เน็ตแบบใด
โดยภาพรวมแล้ว … K PLUS รูปแบบใหม่ สวยขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น และสะดวกสบายมากขึ้นต่อการใช้งานในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ถอนเงิน โอนเงิน จ่ายบิล หรือช้อปปิ้งออนไลน์ก็มีสิทธิพิเศษให้ผู้ใช้มากมาย นอกจากนี้ยังมี “เกด” เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทีเป็นผู้ช่วยบนแอปฯ อันชาญฉลาดที่จะช่วยจดจำไลฟ์สไตล์ และธุรกรรมที่ถูกใช้งานเป็นประจำเพื่อประหยัดเวลาในการค้นหาสิ่งต่างๆ และทำให้ทำธุรกรรมบนมือถือได้รวดเร็ว สะดวกขึ้นกว่าเดิม