
คุณเคย ‘ฉอด’ รึเปล่า?
ฉอด คืออะไร? เท่าที่เรารวบรวม แล้วก็เฝ้าดูคำนี้มา หมายถึง การแสดงความคิดเห็นหรือการถกเถียง ที่ทำให้เกิดการโต้แย้ง ปะทะ กันในบริบทนั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับ...
ฉอด คืออะไร? เท่าที่เรารวบรวม แล้วก็เฝ้าดูคำนี้มา หมายถึง การแสดงความคิดเห็นหรือการถกเถียง ที่ทำให้เกิดการโต้แย้ง ปะทะ กันในบริบทนั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับ...
อัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ จาก 3 แพลตฟอร์มที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดอย่าง Facebook Twitter และ TikTok ในทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าโลกของโซเชียลมีเดียขยายใหญ่และเติบโตขึ้นมาก อิงจากข้อมูลในช่วง Forum Day ในงาน Thailand Zocial Award 2020 ที่ผ่านมา พบว่า จำนวนผู้ใช้งานไม่ได้แตกต่างไปจากปีก่อนเลย แต่เปอร์เซ็นต์การใช้งานกลับเพิ่มสูงขึ้นถึง 36% เราจึงได้เห็นโซเชียลแพลตฟอร์มเกิดใหม่มากมาย ให้เราได้เลือกใช้งานได้ตรงความต้องการมากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้งานที่เป็น Influencer ที่มักจะถือโซเชียลแพลตฟอร์มกันมากกว่า 2 แพลตฟอร์มขึ้นไป ด้วยพฤติกรรมการใช้งานและความสนใจของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไปในแต่ละปี โซเชียลมีเดียต่าง ๆ ก็ต้องศึกษาและพัฒนาตัวเองให้ตอบโจทย์ได้มากที่สุด อย่างเช่น ในปีที่ผ่านมา มีข้อมูลจากทาง Facebook ออกมาว่า ผู้ใช้งานในแพลตฟอร์มของ Facebook Watch เริ่มหันมาสนใจและเสพคอนเทนต์ที่เป็นรูปแบบของวิดีโอมากขึ้น หรือทางฝั่ง Google ที่เปิดเผยข้อมูลว่า ผู้คนเริ่มหันมาสนใจและค้นหาในเรื่องของ Financials หรือ เรื่องการเงินมากขึ้นกว่าปีก่อน ๆ ถึงเกือบ 5 เท่า เพราะฉะนั้น […]
หน้ากากอนามัย ยิ่งใส่ ยิ่งเสี่ยง COVID-19 จริงหรอ? วิธีดูแลป้องกันตัวเองที่ถูกต้องทำยังไง? คุณกำลังทำให้ตัวเองเสี่ยงโดยไม่รู้ตัวอยู่รึเปล่า?
ใครอยากได้มือถือใหม่ยกมือขึ้นค่าา! แอดมินเองก็อยากได้เหมือนกัน ฮื้ออ TT มือถือคู่ใจที่อึดถึกทน ใช้อย่างสมบุกสมบัน อยากให้น้องได้พักมั่งแล้ว 555 แต่ด้วยเศรษฐกิจแบบนี้บางคนก็มีค่านู้นค่านี้ต้องจ่าย อย่างเช่น ค่าห้อง ค่าเน็ต ค่าน้ำ ค่าไฟ บลาๆๆ เยอะแยะไปหมด เราเองก็คือหนึ่งในนั้น ฮ่าๆๆ แล้วจะทำยังไงต่อดีล่ะ จะฝืนซื้อเเล้วเสี่ยงผ่อนดูดีมั้ย หรือขอยืมเงินญาติพี่น้องมาซื้อดี ตรงนี้ก็ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า “ อย่าเชียวค่ะ! ” คือถ้ามันยังไม่จำเป็นเราก็ไม่ต้องรีบ แถมถ้าเราฝืนเกินไปมันอาจจะสร้างภาระให้เราได้นะคะ เบรค ๆ ไว้ก่อน แต่สำหรับใครที่จำเป็นต้องซื้อจริง ๆ เพราะเครื่องเก่าไม่ไหวแล้ว ต้องซื้ออีกเครื่องมาใช้งาน หรือมีเงินพร้อมซื้อ เราขอแนะนำนี่เลยค่า AIS XTREME Deal โปรใหม่ล่าสุดจากทาง AIS เค้าเลย! โปรนี้ก็จะช่วยให้ทุกคนได้ iPhone 11 ในราคาเริ่มต้นเพียงเดือนละ 1,150 บาท! เท่านั้นน ผ่อน 24 เดือนชิว ๆ เลย ตอนเห็นราคาครั้งเเรก […]
หลักการ IO ทำยังไง? ทำไมถึงถูกนำมาใช้ในยุทธศาสตร์ทางการเมือง? ในฐานะผู้เสพข่าวจะรู้ได้ยังไง อันไหนเรื่องจริง เรื่องโกหก? ไม่อยากถูกชักจูงง่ายๆ ควรทำดังนี้
24 ชม. All Day, All Night คือ ช่วงเวลาที่ทุกคนสามารถทักหากันได้ในทุกวันนี้ (ถ้าไม่ปิดโทรศัพท์) เกิดเป็นสารพัน Notification ที่ล้นทะลักในแต่ละวัน ข้อความทักจากเพื่อนยังไม่พอ โฆษณาและข่าวสารจากสื่อและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ยังกระหน่ำส่งข้อความโปรโมทสินค้าหรือบริการกันมาอย่างไม่หยุดหย่อน แม้ Notification ดูจะเป็นสิ่งรบกวนที่ทำให้เราเสียสมาธิและเหนื่อยล้าได้ง่าย แต่การตั้ง Notification ให้ไม่เตือนอะไรเลยอาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เพราะมีการวิจัยออกมาว่าคนที่ยกเลิกการตั้งแจ้งเตือนจากอีเมลหรือโซเชียลบางกลุ่ม กลับมีความเครียดมากขึ้นและสุดท้ายคนสมัยนี้ก็หลีกเลี่ยงการติดต่อผู้อื่นผ่าน โซเชียลหรืออีเมลไม่ได้อยู่ดี สิ่งที่ควรทำมากกว่าอาจเป็นการสร้างสมดุลและมีศิลปะในการตั้ง Notification เช่น ไม่ “เปิดประตู” ให้คนทักมาได้ตลอดเวลา ลองกำหนดเวลาสำหรับเช็ค Notification โดยเฉพาะบ้าง และเปิดโหมด Do Not Disturb สำหรับช่วงพักผ่อนเพื่อกลับมาอยู่กับตัวเอง ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการรู้ว่าตัวเราใช้โซเชียล Platform ไหนในการทำอะไรเป็นหลัก คุยงานหรือคุยเล่นในไหนบ้าง การเลือกรูปแบบการตั้ง Notification ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์เรา มีส่วนช่วยจัดการชีวิตให้ดีขึ้นได้ สมัยนี้ Notification ในหลายแอพพลิเคชั่นสามารถเลือกได้ทั้งแบบที่ขึ้น Preview มาเป็น Banner หรือขึ้นเป็นเพียงตัวเลข Badges […]
เชื่อว่าถ้าพูดถึง “การนอกใจ” หลายๆ คนคงมีภาพฉากการนอกใจแวบขึ้นมาในหัว เช่น จับได้แฟนว่าไปเดทกับคนอื่น หรือ พบแชทยาวๆ ที่คุยกับกิ๊ก แต่รู้หรือไม่ว่า ในยุคนี้ที่เทคโนโลยีรุดหน้า ทำให้การติดต่อสื่อสารง่ายขึ้น การนอกใจของคนยุคใหม่ก็รุดหน้าไปในอีกรูปแบบด้วยเช่นกัน วันนี้จะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับการนอกใจที่เกิดขึ้นได้ง่ายในโลกออนไลน์ “Micro-Cheating” คือ พฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่รักเล็กๆ น้อยๆ พฤติกรรมที่ทำแล้วไม่อยากให้คู่รักได้รู้ แม้จะไม่ใช่การนอกใจโดยตรงก็ตาม เช่น การแชทกับแฟนเก่าหรือเพื่อนต่างเพศโดยปกปิดไม่ให้คนรักรับรู้ การเล่น Tinder คุยเล่นกับเพื่อนต่างเพศ การกดเลิฟ หรือใช้ emoji สื่อรักที่โพสต์ของเพศตรงข้ามบ่อยๆ รวมทั้งการโปรยสเน่ห์และหยอดเล็กๆน้อยๆทางโซเชียลอื่นๆ อีกมากมาย หากเป็นในโลกออฟไลน์ Micro-Cheating คงคล้ายกับการยิ้มแบบโปรยสเน่ห์ให้คนแปลกหน้า หรือซื้อเครื่องดื่มให้คนที่ถูกใจซักคนในผับ การกระทำเหล่านี้ แม้ส่วนใหญ่จะไม่นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่จริงจัง แต่ก็ถือว่าเป็นการไม่ซื่อสัตย์… Micro-Cheating ในโลกออนไลน์ก็เช่นกัน เพียงแต่ เมื่อแอบเหล่หรือหยอดใครในออนไลน์จะมีหลักฐาน (Digital Footprint) บันทึกไว้หมด ซึ่งอาจมีผลทำให้ความสัมพันธ์ของบางคู่สั่นคลอนได้ ในขณะเดียวกัน มีหลายคนที่คิดว่า Micro-Cheating เป็นเรื่องไร้สาระ คนกลุ่มนี้เชื่อว่าทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะมีมนุษยสัมพันธ์ดีกับเพศตรงข้ามและโซเชียลมีเดียเพียงแค่ทำให้คนเราสนิทสนมกันได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ต้องบอกว่า เส้นแบ่งระหว่าง Micro-Cheating “การนอกใจเล็กๆน้อยๆ” […]
*Beauty is in the eye of social media user* *ความงามขึ้นอยู่กับสายตาคนเล่นโซเชียล* คำกล่าวนี้คงไม่เกินจริงเกินไปนัก เมื่อยุคนี้ เรามีทั้ง Filter ที่แต่งรูปให้เราดูเพอร์เฟ็กต์ แอพพลิชั่นที่บีบให้หุ่นเราดูผอม รีทัชลดรอยสิว ทำวงแขนให้ขาว และอีกมากมาย เมื่อคนยุคใหม่เสพความสมบูรณ์แบบจากรูปที่แต่งมากขึ้น นิยามความสวยหล่อแบบใหม่ก็เกิดขึ้น… “คะแนนนิยม” ในโซเชียลทั้งการกดไลค์และจำนวนคน Follow กลายเป็นสิ่งที่ชี้วัดความฮอตอย่างหนึ่ง หากถามว่าอะไรคือสิ่งที่ “ดูดี” ในยุคโซเชียล? แต่ละคนคงมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบถ่ายรูปแบบฮิปสเตอร์ ในขณะที่บางคนชอบเซลฟี่ แต่ไม่ว่าจะดูดีแบบไหน ทุกคนต่างคัดสรรรูปที่ดีที่สุดมาลงโซเชียล แต่ละวัน Feed ของแต่ละคน เต็มไปด้วยภาพที่ “เพอร์เฟ็กต์” จากแบรนด์ ดารา และแม้กระทั่งเพื่อนของเราเองภาพจากทั้งโฆษณาและสื่อต่างๆดึงมาตรฐานความสวยหล่อในยุคนี้ให้สูงขึ้น การที่โซเชียลมีเดียดึงมาตรฐานความงามให้สูงขึ้นอาจดูผิวเผินเหมือนมีแต่ข้อเสีย แต่ความจริงแล้วก็มีข้อดีในแง่ที่ช่วยกระจายโอกาสให้ทุกคนมีรูปที่สวยสมบูรณ์แบบสมใจอยาก จากที่แต่ก่อนมีแค่รูปดาราเท่านั้นที่แต่งรูปเพื่อลงนิตยสาร แต่โซเชียลมีเดียอำนวยให้ทุกคนสามารถแต่งรูปให้สวย และแจ้งเกิดเป็นเน็ตไอดอลด้วยตัวเองได้ เพราะทุกคนมีสื่อเป็นของตัวเอง เป็นเรื่องน่าคิดต่อว่า เมื่อรู้ว่าสังคมมีการให้ค่าความสวยหล่อ แล้วจำเป็นไหมที่เราต้อง #NoFilter ไม่แต่งรูป เพื่อไม่ตามมาตรฐานความงาม หรือ Beauty […]
หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่า ลักษะนิสัยในการ “โซเชียล” ของคนเรามี 2 แบบใหญ่ๆ นั่นคือ Introvert คนที่มีโลกส่วนตัวสูง และ Extrovert คนที่ชอบเข้าสังคม แล้วถ้าเป็นในโลกโซเชียลล่ะ ? เทคโนโลยีมีผลต่อลักษณะนิสัยในโลกออนไลน์ของเราอย่างไรบ้าง ?? สำหรับ Introvert โลกออนไลน์ที่ไม่เคยหลับใหลเปิดโอกาสให้ คนที่ไม่ชอบเข้าสังคมนักได้ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นมากขึ้น ผ่านการคุยแชท โทรศัพท์ เว็บบอร์ด และอื่นๆ อีกมากมาย เพราะคนที่เป็น Introvert มักพูดน้อย แต่มีเรื่องราวที่คิดมากมายในหัว โซเชียลจึงอำนวยให้คนเหล่านี้ได้อัพสเตตัสยาวๆ หรือ เขียนเล่าเรื่องตัวเองผ่านตัวอักษร หรือ ภาพถ่าย โดยไม่ต้องรับแรงกดดัน หรือ เหนื่อยล้าจากการเจอหน้าคนเยอะๆ ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะแม้จะทำให้สบายใจมากขึ้น แต่ถ้าหลบอยู่หลังหน้าจอมากเกินไป ก็อาจกลายเป็นคนเก็บตัวมากเกินไปได้ ส่วน Extrovert ที่ชอบเข้าสังคมและ Connect กับผู้คนตลอดเวลาในชีวิตจริงอยู่แล้ว โซเชียลยิ่งช่วยให้ได้ติดต่อและอัพเดทเรื่องราวของเพื่อนๆ มากขึ้น รวมทั้งเปิดโอกาสให้ได้เจออีเว้นท์หรือการพบปะสังสรรค์สังคมใหม่ๆ ข้อเสียของโซเชียลมีเดียที่มีต่อ Extrovert คือ เมื่อเพื่อนเยอะ ก็มักติดตามเรื่องเพื่อนมากเกินไป จนรู้สึกขาดโซเชียลไม่ได้ กลัวตามไม่ทันคนอื่น หรือ อาการที่เรียกว่า […]
Vaguebook คือ การจงใจพูดลอยๆ กำกวม ไม่เจาะจงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ทำให้คนส่วนใหญ่ที่อ่านต้องถามต่อว่าเกิดอะไรขึ้น เช่น “ขอพลังบวกหน่อย” “ไม่เข้าใจเลยทำไมทำแบบนี้” “เศร้าจัง” “ไม่เอาอีกแล้ว” “ตั้งตารอพรุ่งนี้” อ่านแล้วจะเกิดเครื่องหมายคำถามในหัวเต็มไปหมด ????? ว่าสรุปเกิดอะไรขึ้น ?! เมื่อคนอ่านไม่รู้ว่าสเตตัสกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ทำให้คาดเดาอารมณ์คนเขียนไม่ถูก เศร้า เสียใจ ดีใจ แค่ไหน ปัญหาที่ระบายเป็นปัญหาใหญ่แค่ไหน หรือแค่พูดเล่นๆ ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่ Vaguebook ถือเป็นการเรียกร้องความสนใจอย่างหนึ่ง คล้ายๆ กับบทความแบบ Clickbait ในสื่อต่างๆ สมัยนี้ที่นิยมพาดหัวข่าวเวอร์ๆให้คนสนใจกดเข้าไปอ่านต่อ เช่น “คุณจะต้องทึ่ง” “และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น” เช่นกัน Vaguebook เปรียบเสมือน Clickbait ในสเตตัสส่วนตัวที่กระตุ้นให้เพื่อนเข้ามาคอมเมนต์ ถามต่อว่าเป็นอะไรไหม เกิดอะไรขึ้น การเรียกร้องความสนใจในอินเทอร์เน็ต ทั้ง Vaguebook และ Clickbait ตามสื่อ เกิดกระแสต่อต้านทั้งคู่ เพราะพาดหัวข่าวเกินจริงของหลายสำนัก เป็นการเล่าเกินจริง ทำให้คนอ่านรู้สึกไม่ดี ส่วน Vaguebook นั้นก็มีกระแสไม่พอใจในหมู่คนเล่นโซเชียลทั่วโลกเพราะคนมักรู้สึกว่าเพื่อนเรียกร้องความสนใจเกินไป บางคนถึงกับตั้งแง่ไปเลยว่า […]