ศิลปะการตั้ง Notification ในโลกที่วุ่นวาย

24 ชม. All Day, All Night คือ ช่วงเวลาที่ทุกคนสามารถทักหากันได้ในทุกวันนี้ (ถ้าไม่ปิดโทรศัพท์)

เกิดเป็นสารพัน Notification ที่ล้นทะลักในแต่ละวัน  ข้อความทักจากเพื่อนยังไม่พอ

โฆษณาและข่าวสารจากสื่อและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ยังกระหน่ำส่งข้อความโปรโมทสินค้าหรือบริการกันมาอย่างไม่หยุดหย่อน

แม้ Notification ดูจะเป็นสิ่งรบกวนที่ทำให้เราเสียสมาธิและเหนื่อยล้าได้ง่าย แต่การตั้ง Notification ให้ไม่เตือนอะไรเลยอาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด

เพราะมีการวิจัยออกมาว่าคนที่ยกเลิกการตั้งแจ้งเตือนจากอีเมลหรือโซเชียลบางกลุ่ม กลับมีความเครียดมากขึ้นและสุดท้ายคนสมัยนี้ก็หลีกเลี่ยงการติดต่อผู้อื่นผ่าน โซเชียลหรืออีเมลไม่ได้อยู่ดี

สิ่งที่ควรทำมากกว่าอาจเป็นการสร้างสมดุลและมีศิลปะในการตั้ง Notification เช่น ไม่ “เปิดประตู” ให้คนทักมาได้ตลอดเวลา ลองกำหนดเวลาสำหรับเช็ค Notification โดยเฉพาะบ้าง และเปิดโหมด Do Not Disturb สำหรับช่วงพักผ่อนเพื่อกลับมาอยู่กับตัวเอง

ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการรู้ว่าตัวเราใช้โซเชียล Platform ไหนในการทำอะไรเป็นหลัก คุยงานหรือคุยเล่นในไหนบ้าง

การเลือกรูปแบบการตั้ง Notification ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์เรา มีส่วนช่วยจัดการชีวิตให้ดีขึ้นได้

สมัยนี้ Notification ในหลายแอพพลิเคชั่นสามารถเลือกได้ทั้งแบบที่ขึ้น Preview มาเป็น Banner หรือขึ้นเป็นเพียงตัวเลข Badges เล็กๆ ที่มุมแอพพลิเคชั่น เพื่อแจ้งเตือนว่า มีข้อความเข้ากี่ข้อความ

แถมในสมัยนี้ยังมีตัวเลือกการแจ้งเตือนจากอุปกรณ์เทคโนโลยี ที่ทำให้ไม่จำเป็นต้องหยิบมือถือออกมาดูอีกต่อไป เช่น Smart Watch แค่พลิกข้อมือก็ดูการแจ้งเตือนได้ทันที แต่ยิ่งเราเช็ค Notification ได้ง่ายเท่าไหร่ เราก็ยิ่งต้องมีศิลปะในการเช็คมากขึ้นเท่านั้น เพราะถ้ามัวแต่อ่านข้อความทั้งวันจนเพลิน ก็อาจเปลืองเวลากับการนั่งอ่านข้อความที่เข้ามาอย่างไม่จบสิ้น

*เกิดเป็นคนยุคใหม่จึงต้องมีชั้นเชิงการเช็ค Notification ด้วยนะ !  

แสดงความเห็น