เรียกว่ามาแรงสุด ๆ สำหรับค่ายมือถือจากแดนมังกรอย่าง Vivo ที่ประสบความสำเร็จกับ Vivo V9 ไปได้ไม่นาน มาครั้งนี้ก็มาสร้างความฮือฮาในเมืองไทยอีกครั้งกับมือถือสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ได้เป็นเจ้าแรกของโลกอย่าง Vivo X21 ซึ่งดีไซน์อาจจะไม่ต่างจาก Vivo V9 แต่สเปกด้านในจัดเต็มพอสมควรเลยค่ะ นอกจากเรื่องสแกนนิ้วมือแล้ว ยังมีชิปเสียง Hi-Fi และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่อยู่แทบทุกซอกทุกมุมของเครื่อง มาดูกันเลยค่ะ ว่าสเปกรุ่นนี้มีดีอะไรบ้างง
สเปก Vivo X21
- หน้าจอขนาด 6.28 นิ้ว Super Amoled ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 19:9
- CPU : Snapdragon 660
- GPU : Qualcomm Adreno 512
- RAM : 6 GB
- ROM : 128 GB เพิ่ม Micro SD Card ได้
- กล้องหลัง : 12 MP + 5 MP เลนส์ Dual Pixel
- กล้องหน้า : 12 MP เลนส์ Dual Pixel
- แบตเตอรี่ : 3200 mAh
- รองรับการใช้งาน Dual Sim สามารถใส่ได้ 1 Sim + 1 SD Card
- ระบบ Android 8.1 ครอบด้วย Funtouch OS 4.0
- สีที่วางจำหน่าย : สีแดง, สีดำ
จุดเด่น
- กล้องหน้า 12 MP เลนส์ Dual Pixel
- ชิปเสียง Hi-Fi กับระบบเสียง Deep Field Effect
- ระบบสแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
ข้อสังเกต
- ฝาหลังเป็นกระจก เกิดรอยนิ้วมือง่ายมาก
- จอยาวไปกดปุ่มเมนูด้านบนลำบาก
ดีไซน์
- ตัวเครื่องค่อนข้างดูดีเลยค่ะ บอดี้เป็นโลหะ ส่วนฝาหลังเป็นกระจก ที่สำคัญน้ำหนักเบามาก เพียงแค่ 156.2 กรัม
- หน้าจอมีขนาดใหญ่ถึง 6.28 นิ้ว อัตราส่วน 19:9 เป็นแบบ FullView Display ขอบบางเฉียบ ความละเอียดระดับ Full HD จะเอามาดูหนัง เล่นเกม ก็ฟินมากเลยค่ะ
- จอรุ่นนี้เป็น Super Amoled สีสดสวยงาม เป็นธรรมชาติ และยังมีระบบปลดล็อกใบหน้า (Face Access) ใช้ได้ทั้งในที่ปกติและที่แสงน้อยด้วยค่ะ
- รุ่นนี้ยังคงมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 MM เหมือนเดิม โดยใช้ระบบเสียง Deep Field Effect คู่กับชิพเสียง Hi-Fi ทำให้ได้เสียงร้องคลีนขึ้น เสียงเบสชัดขึ้น ยิ่งหากเราเปิดผ่านลำโพงก็จะได้เสียงที่ดังทั่ว 360 องศา ช่วยเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงมากทีเดียวค่ะ
ประสิทธิภาพ
จากที่ลองเล่นมา Vivo X21 ใช้งานทั่วไปดีมากค่ะ เล่นเกม, เล่นโซเชียล ก็ลื่นไหลเพราะใช้ CPU Snapdragon 660 เป็นชิปตัวท็อปในกลุ่ม Midrange เรื่องประสิทธิภาพนั้นหายห่วงได้เลยค่า
โดยพร้อมกับ RAM 6 GB ที่ช่วยให้การเปิดใช้งานแอปหลาย ๆ แอปพร้อมกันได้ดีมากขึ้น ส่วน ROM 128 GB ซึ่งถือว่าเพียงพอแล้วกับการใช้งานทั่ว ๆ ไป
Vivo X21 นอกจากจะมี CPU ที่ดีแล้วเขายังมี AI เข้ามาช่วยในการจัดการประสิทธิภาพตัวเครื่อง โดยรวมอีกด้วย หลายคนอาจจะคิดว่ามี AI แล้วมันช่วยเรื่องอะไรบ้าง
AI
- โดย AI จะช่วยในการจัดการตัวเครื่องให้เรา ชัดเลย ๆ คือ AI อัลบัม เราสามารถเสิร์ชชื่อได้เช่น “กระถางต้นไม้” ระบบจะทำการค้นหารูปที่มี “กระถางต้นไม้” มาให้เราค่ะ อีกอย่างเวลาเราเปิด แอปฯ ไหน บ่อย ๆ ระบบจะทำการจดจำและช่วยเปิดแอปฯ นั้นได้เร็วขึ้น 20%
- ที่ขาดไม่ได้เลยคือการเพิ่มประสิทธิภาพของกล้อง ที่ยกระดับการถ่ายภาพให้เราด้วย AI ค่ะ
กล้อง
- โดยกล้องหลังมีความละเอียด 12 MP เซนเซอร์โฟกัสเป็นแบบ Duel Pixel ใช้เลนส์ 2 ตัวถ่ายภาพแล้วนำภาพมาซ้อนกันช่วยให้เราได้ภาพที่ดีที่สุด ทั้งยังช่วยให้ภาพชัดเจนและเรื่องของโฟกัสก็เร็วขึ้นด้วยค่ะ
AI ในรุ่นนี้มีมาให้เราทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง
- AI ช่วยปรับแต่งภาพตาม ผิว เพศ อายุ ของเราให้เหมาะกับแสงของภาพ ช่วยให้เราได้ภาพที่สวยเป็นธรรมชาติมากขึ้นค่ะ
- AI recognition ช่วยบ่งชี้ภาพ 18 แบบ วิเคราะห์ฉากหลัง 140 แบบ เช่น คน อาหาร พืช จากนั้นกล้องจะปรับภาพให้ถ่ายให้สวยงามตามธรรมชาติ
ตัวอย่างภาพจาก AI Face Beauty
กล้องหน้า รุ่นนี้ให้ความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล เซนเซอร์เป็นแบบ Duel Pixel เช่นเดียวกันค่ะ มาพร้อมกับ AI Face Beauty ที่ช่วยปรับแต่งใบหน้าของเราให้สวยงาม
นอกจากจะถ่ายภาพหน้าสวยได้แล้ว ยังถ่ายวิดีโอหน้าสวยได้เช่นกันค่าา โดยมีโหมด Beauty ในวิดีโอให้เราเลือกถึง 6 ระดับเช่นกันค่ะ
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า
ความปลอดภัย
- สำหรับความปลอดภัยของเครื่องนี้มีอยู่ 2 แบบค่ะ
- สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
- ระบบ Face Access ปลดล็อกด้วยใบหน้าทั้งในที่แสงปกติและที่แสงน้อย
โดยรวมแล้ว
Vivo X21 เป็นมือถือที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ทั้งดีไซน์ ฟีเจอร์ต่าง ๆ และที่สำคัญคือ การสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอเป็นรุ่นแรกของโลก ส่วนสเปกต่าง ๆ ก็จัดว่าโอเคเลยค่ะ โดยเฉพาะกล้อง AI Face Beauty ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เฟื่องชอบมากและเชื่อว่าสาว ๆ หลายคนน่าจะชอบเหมือนกัน ส่วนหนุ่ม ๆ ที่ชอบเล่นเกมก็แนะนำเหมือนกันค่ะ บอกเลยว่าเล่นแล้วลื่นปรื้ด ๆ ส่วนใครที่สนใจย้ำกันอีกที มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี คือ ดำ, แดง ราคา ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 19,990 บาท ค่า
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง Vivo X21
