ยุคนี้ใครๆ ก็กังวลเรื่องความปลอดภัย เห็นได้จากที่หลายองค์กรเริ่มนำระบบ Security แบบครบวงจร เข้ามาใช้ แต่ด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงก็ยังมีองค์กรอีกหลายแห่งที่ยังต้องใช้เทคโนโลยีแบบเก่า เช่น ใช้กล้องวงจรปิดทำหน้าที่บันทึกภาพ แล้วจ้างคนมาสำรวจความปลอดภัยในตึกแทน
แน่นอนว่าโดยศักยภาพของคน อาจจะยังไม่สามารถทำงานได้ครบวงจรไปเสียทั้งหมด เช่น การที่คนๆ นึงต้องจดจำใบหน้าผู้เข้าออกอาคารที่ต่างกันวันละเป็นพันๆ คน ย่อมทำได้ยากค่ะ พอเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือการบุกรุกขึ้นจริง กล้องวงจรปิดเหล่านี้กลับทำได้แค่บันทึกภาพเท่านั้น (และจากที่เราเคยเห็นกันบ่อยๆ ในข่าว กล้องวงจรปิดเป็นร้อย อาจจะเปิดใช้งานได้จริง เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น)
ดังนั้นการนำเอาเทคโนโลยี AI หรือการนำ Software ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะมาใช้ร่วมกับอุปกรณ์อัจฉริยะน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในยุคปัจจุบัน เพราะจะช่วยอุดรอยรั่วในจุดที่มนุษย์ยังทำไม่ได้ และราคาต้องเอื้อมถึงด้วย
วันนี้ เรามีบริการ Smart Security Platform แบบครบวงจรในราคาเข้าถึงได้ อย่าง “TOSSAKAN (ทศกัณฑ์)” แพลตฟอร์มระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะจาก SKY ICT บริษัทสัญชาติไทยที่นำ AI ระดับโลกเข้ามายกระดับความปลอดภัยในอาคารแบบ Total Solutions ทำให้เราไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ระหว่างต้นทุนหรือประสิทธิภาพ มาแนะนำให้ทุกคนรู้จักกันค่ะ
TOSSAKAN จะเข้ามาตอบโจทย์ยังไงบ้าง?
- เพิ่มศักยภาพของอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ (Seamless) กับกล้อง AI CCTV, ระบบ Access Control, Mobile Application และศูนย์สั่งการ (Security Operation Center: SOC) ยกระดับความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้งานอาคารทุกประเภท ตลอด 24 ชั่วโมง
- เป็นบริการให้เช่าแบบรายเดือน ด้วยราคาเริ่มต้นหลักหมื่น ซึ่งถือว่าถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับการลงทุนซื้อ Software & AI ครบวงจรแบบถาวร รวมถึงค่าบำรุงรักษาต่างๆ อีกด้วย
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ TOSSAKAN มีรูปแบบการทำงานที่ครบวงจร ทั้ง 5 อย่าง คือ
- Hardware หรือ อุปกรณ์ที่มีเทคโนโลนีขั้นสูง : ระบบกล้องวงจรปิดอัจฉริยะ (AI CCTV) ที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT พร้อมระบบ Intrusion Alert, Watchlist Detection, Fire Alarm Alert สามารถแจ้งเตือน หากมีเหตุฉุกเฉินได้แบบเรียลไทม์
- Software หรือ ระบบปฏิบัติการที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและใช้งานได้จริง โดยแอปฯ TOSSAKAN ทำให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อกับ AI CCTV, ระบบ Access Control และ ศูนย์ SOC เมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น ระบบจะทำการแจ้งเตือนเข้าไปในแอปฯ และเจ้าหน้าที่สามารถให้ความช่วยเหลือได้ทันที
- ระบบบริหารอาคารอัจฉริยะ ควบคุมการเข้า-ออกพื้นที่อัตโนมัติ ด้วยระบบจดจำใบหน้า และระบบอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ เพิ่มความปลอดภัยให้แก่องค์กรและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ
- ศูนย์สั่งการด้านความปลอดภัย ทำหน้าที่เฝ้าระวังและป้องกันองค์กรจากการถูกบุกรุกหรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตลอด 24 ชั่วโมง
- การนำ Data หรือ ข้อมูล มาประมวลผลข้อมูลด้วย AI แสดงผลรายงานเป็น Dashboard เพื่อการวางแผนและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
ถ้าหากลองดูตัวอย่างการใช้ AI แบบครบวงจรในระดับโลกก็มีให้เห็นมากมาย เช่น การนำ AI มาใช้ในการตรวจหาติ่งเนื้อร้าย โดยให้ AI เข้าไปตรวจสอบ เก็บข้อมูลและลักษณะการเกิดติ่งเนื้อจนสามารถวิเคราะห์ได้ถึงความเสี่ยง หรือความผิดปกติของติ่งเนื้อ และยิ่งมีการสะสมข้อมูลมากขึ้น AI ก็ยิ่งวินิจฉัยโรคได้แม่นยำขึ้น
ไปจนถึงการนำ AI มาใช้พัฒนาเมือง เช่น การติดตั้งกล้อง AI CCTV ที่มีเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าและความร้อนรอบเมืองในอเมริกา เมื่อ AI เรียนรู้ถึงพฤติกรรมของมนุษย์ อย่างการรวมกลุ่มของคนจำนวนมาก / การเคลื่อนไหวหรือพฤติกรรมที่น่าสงสัย ก็จะช่วยแจ้งเตือนไปผู้ควบคุมในห้อง Command Room ผลที่ได้คือคนในเมืองได้รับการดูและมีความปลอดภัยสูงขึ้นค่ะ
ส่วน TOSSAKAN เองก็มีฟีเจอร์เจ๋ง ๆ ที่เข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัยให้เราได้ เช่น
- Intrusion Alert ระบบแจ้งเตือนผู้บุกรุกพื้นที่ ตรวจจับผู้บุกรุกเข้าพื้นที่หวงห้ามที่กำหนดไว้ และแจ้งเตือนการบุกรุกในเวลาที่ไม่ได้รับอนุญาต
- Watchlist Detection ระบบแจ้งเตือนบุคคลเฝ้าระวัง ใช้ระบบ Face Recognition ตรวจจับภาพผู้คนที่ผ่านกล้อง AI CCTV แบบเรียลไทม์ และแจ้งเตือนเมื่อพบใบหน้าเฝ้าระวัง พร้อมรองรับการบันทึกใบหน้าไว้เพื่อทำการเปรียบเทียบกว่า 1 ล้านใบหน้า สามารถบันทึกข้อมูลใบหน้าที่ผ่านหน้ากล้องได้ถึง 200 ล้านใบหน้า!
- Face Recognition ระบบจดจำใบหน้า และ License Plate Recognition (LPR) ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ ช่วยจัดการพื้นที่จอดรถ และอนุญาตให้เข้า-ออกพื้นที่ได้แบบไร้การสัมผัส (ซึ่งก็เหมาะมากๆ กับยุคนี้เลย)
- Security Operation Center (SOC) ศูนย์สั่งการด้านความปลอดภัย ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยส่วนกลาง ที่แสดงภาพจากกล้อง CCTV พร้อมกันได้เกือบ 1,000 ตัว โดยมีผู้เชี่ยวชาญ และ AI คอยตรวจจับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ พร้อมแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้บริการทันทีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
บรรยากาศภายใน Security Operation Center (SOC)
ในแอปฯ TOSSAKAN ก็ยังมีบริการอื่น ๆ อีก เช่น Emergency call ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อมีเหตุฉุกเฉิน, Patrol ช่วยจัดตารางงานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้ตรวจตราพื้นที่อย่างเป็นระบบ, CCTV on Mobile ดูกล้องวงจรปิดผ่านมือถือได้ 24 ชั่วโมง ฯลฯ เป็นบริการเดียวที่ทำได้หลายอย่าง เหมือนมีผู้ช่วย 20 ตา 20 มือ ตามชื่อ “ทศกัณฑ์” เลยค่ะ
แต่เราจะมั่นใจได้ยังไง เมื่อการฝากข้อมูลไว้กับ AI อาจเป็นภัยต่อผู้ใช้งาน?
หลายคนอาจจะกังวลว่า การรวบรวมข้อมูลมหาศาลไว้กับ AI อาจกลายเป็นช่องโหว่ที่สร้างความเสียหายเมื่อเกิดการโจรกรรมทางดิจิทัล ซึ่ง SKY ICT ก็ไม่ได้มองข้ามจุดนี้ ทั้งข้อมูลส่วนบุคคลจะเป็นของผู้ใช้บริการทั้งหมด โดยมีการเข้ารหัส (Encrypted) ไว้อย่างแน่นหนา และการใช้ระบบ Cloud ระดับโลกอย่าง Amazon Web Services (AWS) ที่มีการอัปเดตระบบความปลอดภัยอยู่ตลอด ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลทั้งหมดจะได้รับการคุ้มครองอย่างดีค่ะ
สรุป
ในยุคนี้การลงทุนกับเทคโนโลยี ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญและจำเป็นมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อผู้ดูแลสถานที่กับผู้ใช้งาน, ระบบจัดการคน รวมไปถึงระบบรักษาความปลอดภัย การนำ AI มาช่วยคนก็สามารถอุดรอยรั่วของคนได้ซึ่งทั้ง 3 อย่างนี้ใส่มาให้พร้อมกับ TOSSAKAN แล้ว
การที่ SKY ICT เข้ามาให้บริการในลักษณะนี้กับภาคเอกชน ก็ยิ่งทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงได้ง่ายขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นองค์กรที่ต้องดูแลผู้ใช้บริการจำนวนมาก เช่น อาคารสำนักงาน หมู่บ้านจัดสรรและคอนโด โรงงาน โรงแรม โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า และมหาวิทยาลัย ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ก็คือ ลูกบ้าน ไปจนถึงองค์กรธุรกิจที่ต้องดูแลพนักงาน ลูกจ้าง และลูกค้า ทั้งหมดนี้ก็คือ ภาคประชาชน อย่างเราๆ นั่นเอง
ท้ายที่สุดเมื่อการขับเคลื่อน Security Technology ของไทยให้ทำได้มากกว่าแค่การรักษาความปลอดภัยให้คนในสังคม ในขั้นต่อไป การที่จะนำเทคโนโลยีอัจริยะ หรือ AI มาช่วยเสริมและพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็น Smart City ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจและน่าติดตามต่อมากๆ ค่ะ
สามารถติดตาม TOSSAKAN ต่อได้ที่ https://bit.ly/3BdbbuH หรืออีเมล info@tossakan.tech, เบอร์โทรศัพท์ 02-029-7888