สรุปเทรนด์ Beauty Tech โฉมหน้าความงามดิจิทัลปี 2020
เป็นการพลิกโฉมอุตสากรรม ความงาม ที่ต้องขับเคลื่อนด้วยเทคฯ จุดเปลี่ยนของวงการ Beauty เราจึงขอหยิบในส่วนของเทรนด์ Beauty Tech ที่จะเกิดในปี 2020 มาเล่าสู่กันฟัง
เป็นการพลิกโฉมอุตสากรรม ความงาม ที่ต้องขับเคลื่อนด้วยเทคฯ จุดเปลี่ยนของวงการ Beauty เราจึงขอหยิบในส่วนของเทรนด์ Beauty Tech ที่จะเกิดในปี 2020 มาเล่าสู่กันฟัง
การพยายามสร้างผลงานที่การลอกเลียนแบบตัวตนของบุคคล เราคงเคยเห็นผ่านตามาบ้างตามงานศิลปะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพเหมือนของจิตรกร การปั้นดินเหนียวรูปมนุษย์ หรือแม้แต่ผลงานหุ่นขี้ผึ้งของมาดามทุสโซ โดยการสร้างดังกล่าวเป็นเพียงการจำลองความเหมือนของรูปลักษณ์ภายนอกให้อยู่ในกรอบที่จำกัด ไม่ได้แสดงท่าทางเคลื่อนไหว รวมไปถึงการพูดเพื่อให้เกิดการปฎิสัมพันธ์ใดใด จึงเป็นเรื่องง่ายที่มนุษย์อย่างเราจะสามารถแยกแยะได้ว่าอันไหนจริง อันไหนจำลองขึ้น ผิดกับ Deepfakes ที่ไม่เพียงสร้างความเข้าใจผิดในเรื่องของรูปลักษณ์ แต่ยังส่งผลกระทบไปถึงการบิดเบือนข้อมูลจนนำไปสู่ความโกลาหล อีกทั้งตัวมนุษย์เองยังต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควรกว่าจะรับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่ตัวจริง ข้อมูลที่สื่อสารอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องจริง แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถแยกแยะสิ่งเหล่านี้ได้อย่างเด็ดขาด กว่าจะรู้ตัวผลกระทบที่เกิดขึ้นก็อาจจะบานปลายเกินควบคุม วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเจ้า Deepfakes ว่าคืออะไร จุดเริ่มต้นการใช้เทคโนโลยีนี้มาจากไหน ทำไมเทคโนโลยีนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นเพียงเรื่องขำขัน กลับสามารถสร้างแรงกดดันถึงขั้น Google , Twitter Facebook รวมถึงองค์กรเจ้าใหญ่อื่นๆ ต้องลงมาจัดการควบคุมเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เราจะมาหาคำตอบกันในบทความนี้ จุดกำเนิด Deepfakes คำว่า Deepfakes นั้นถูกนำมาใช้จำกัดความให้กับวิดีโอที่ถูกปลอมขึ้นมาโดยใช้เทคโนโลยี A.I. ซึ่งคำจำกัดความนี้เกิดจากการผสานรวมกันสองคำระหว่างคำว่า “Deep” ซึ่งหมายถึง “Deep Learning” หนึ่งในรูปแบบการทำงานของ A.I. ที่ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบันเพื่อใช้ในการแยกแยะข้อมูลที่ซับซ้อนให้แม่นยำขึ้นกว่าวิธีการปกติ เช่น การแยกแยะภาพนิ่งตามอัตลักษณ์ , การแยกแยะบุคคลในวิดีโอ , การจำแนกเสียงของตัวบุคคล , การวิเคราะห์โรคทางการแพทย์ต่าง ๆ ฯลฯ […]
นับเป็นเวลาหลายทศวรรษที่เทคโนโลยีหุ่นยนต์พยายามเข้ามามีบทบาทและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งตัวระบบการประมวลผล และฟังก์ชันการทำงาน เรียกได้ว่าเตรียมขึ้นเป็นแรงงานที่มีศักยภาพได้เทียบเท่ามนุษย์ เช่น การคำนวณเชิงตรรกะ การเลียนแบบพฤติกรรมพื้นฐานของมนุษย์ อย่างการเดิน วิ่ง ล้มแล้วลุกด้วยตัวเอง ยกของ เป็นต้น ซึ่งฟังก์ชันพฤติกรรมที่เหมือนมนุษย์เหล่านั้นจะถูกประยุกต์ให้ทดแทนการทำงานของมนุษย์อย่างการขนของ หรือการกู้ภัยในพื้นที่ที่เสี่ยงอันตราย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับมนุษย์เองและเสริมสร้างเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งปัจจุบันหุ่นยนต์ที่มีฟังก์ชันที่กล่าวถูกพัฒนาขึ้นแล้วโดยบริษัท Boston Dynamics ผู้เชียวชาญด้านการพัฒนาหุ่นยนต์ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีสมองกลอัจฉริยะอย่าง A.I. เพื่อช่วยในการก้าวข้ามขีดจำกัดการทำงานในอดีตให้สูงขึ้น ชื่อของ Boston Dynamics ถูกพูดถึงกันอย่างหนาหูในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จากคลิปวิดีโอผลงานที่ทางบริษัทได้ปล่อยออกมาเอง ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายมนุษย์ Atlas ที่โชว์ความสามารถในการวิ่ง กระโดดและตีลังกาหลังได้ ซึ่งทำได้ออกมาเกือบจะเป็นธรรมชาติอย่างมาก หรือหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายสุนัข Spot ที่สร้างความตื่นเต้นคนที่พบเห็นกับความสามารถในการเปิดประตู ปอกเปลือกกล้วย ช่วยขนของ และสำรวจพื้นที่ คาดว่าในอนาคต เจ้าหุ่นยนต์เหล่านี้จะกลายเป็นผู้ช่วยของมนุษย์ได้อย่างดีเยียมในโลกของอุตสาหกรรมแรงงาน สิ่งที่เราจะมาชวนคุย ไม่ใช่เรื่องความน่ายินที่ Boston Dynamics เป็นคนทำ กลับเป็นอนาคตที่กำลังจะตามมากับการใช้ชีวิตของมนุษย์ร่วมกันกับหุ่นยนต์ว่ากำลังจะดำเนินไปในทิศทางไหน ความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อเราผนวกเอาอารยธรรม และองค์ความรู้ทุกอย่างลงไปในสมองกลและติดตั้งให้กับหุ่นยนต์เหล่านี้ เพื่อหวังจะให้มาคอยช่วยเหลือมนุษย์ หรืออาจจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามแทนกันแน่ แต่ก่อนหน้าที่เราจะพูดถึงเรื่องนั้น เรามาทำความรู้จักบริษัทนี้กันพอสังเขปกันก่อนดีกว่า ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และมีการพัฒนาอะไรมาบ้างก่อนจะมาถึงปัจจุบัน […]
ลองจินตนาการดูกันนะครับ วันหนึ่งเราอาจตื่นขึ้นมาแลัวพบว่ามนุษย์บางส่วนในโลกถูกทดแทนด้วยหุ่นยนต์ ไม่ว่าจะบนท้องถนน ในสำนักงานหรือในบ้านเราก็ตาม ก็คงจะมีคำถามว่าเราจะอยู่ร่วมกันอย่างไร เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเพราะทุกวันนี้คุณ ๆ ก็มีชีวิตร่วมกับหุ่นยนต์หรือ AI อยู่แล้วไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับที่มาที่ไปของ AI ในอีกแบบหนึ่ง เพื่อที่จะทำความเข้าใจและเตรียมรับมือกับเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนโลกในทุกวันนี้ ที่ไอน์สไตน์กล่าวไว้ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” น่าจะใช้ได้กับทุกวงการจริง ๆ โดยเฉพาะในศิลปะภาพยนตร์เพราะประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจในภาพยนตร์ในอดีต อันเกิดจากจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของผู้เขียนบทภาพยนตร์ สิ่งเหล่านั้นก็ได้กลายมาเป็นจริงในปัจจุบันและมีอิทธิพลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคนได้อย่างมหาศาล ในปี 2469 ฟริทซ์ แลง นักสร้างภาพยนตร์ชาวออสเตรียได้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Metropolis ด้วยทุนมหาศาล Metropolis ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพยนตร์วิทยาศาสตร์คลาสสิคที่ดีที่สุดตลอดกาล จุดเด่นของหนังเรื่องนี้คือการปรากฎตัวของหุ่นยนตร์สาว ซึ่งเป็นเรื่องใหม่มากในสมัยนั้นและได้กลายเป็นต้นแบบของหนังหุ่นยนต์อีกหลายเรื่องในเวลาต่อมา นี่คือสิ่งที่เรารู้จักกันใน พ.ศ.นี้และเรียกกันว่า A.I. Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์ แล้วเราก็ได้เห็น AI ที่มีเนื้อหนังเป็นคนจริงๆ ในหนังของ สตีเวน สปีลเบิร์ก ที่มีชื่อเรื่องตรงๆ ว่า A.I. Artificial Intelligence ในปี 2544 […]
ในปี 2019 ที่กำลังจะผ่านไป หลากหลายบริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยีให้ทวีความฉลาดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หลากหลายเทคโนโลยีก็ได้แสดงจุดยืนและศักยภาพของมันจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ให้เราได้ใช้งานกันแล้วในปีนี้ ขณะที่ในอีกหลายตัวก็ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่ก็ได้มีการประกาศและทยอยแสดงเปิดเผยออกมาสู่สาธารณะชนอย่างต่อเนื่อง สำหรับปี 2020 ที่กำลังจะมาถึง เรากำลังจะได้เห็นเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับบริการรูปแบบใหม่ที่จะกลายมาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันเราไปในทิศทางไหน ทางเราได้รวบรวม 5 เทรนด์เทคโนโลยีที่จะกลายเป็นรากฐานในการใช้ชีวิตในอนาคต รวมถึงหยิบยกประเด็นสำคัญของเทคโนโลยีนั้น ๆ มาเล่ากันให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน ถ้าพร้อมแล้วไปลุยกันเลย!! Facebook Horizon คอมมิวนิตี้แห่งอนาคต หากใครเคยได้ชมภาพยนตร์เรื่อง Ready Player One ก็สามารถนึกภาพและเข้าใจแนวคิดของบริการใหม่นี้ได้ไม่ยาก ตามที่พวกเราเคยได้ข่าวมาว่า Facebook เข้าซื้อบริษัท Oculus VR แต่ก็ไม่เห็นจะมีผลิตภัณฑ์อะไรเคลื่อนไหวออกมาสักระยะแล้ว ล่าสุดได้ประกาศเปิดตัว Facebook Horizon นี้อย่างเป็นทางการ แล้วมีแผนจะเปิดให้บริการในปี 2020 นี้ ซึ่งรายละเอียดเบื้องต้นสามารถรับชมได้จากวิดีโอด้านล่างนี้ได้เลย Facebook Horizon เป็นโลกเสมือนจริงบนแพลตฟอร์มของ Oculus VR กล่าวคือ การเข้าสู่โลกของ Horizon จำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์ที่เป็นแว่น VR ในการเชื่อมต่อ ภายในโลกเสมือนนั้นจะมีสถานที่ต่างๆให้เราไปเยี่ยมเยือน […]
เมื่อพูดถึงการซื้อรถสักคันนึง ที่ตอบโจทย์การใช้ในเมือง รถติด ๆ หลาย ๆ คนคงนึกถึงรถเก๋งคันเล็ก ๆ หรือ City Car เป็นอันดับแรก ๆ ใช่ไหมคะ ด้วยความที่คันเล็กคล่องตัว หาที่จอดง่าย และประหยัดพลังงานกว่ารถรูปแบบอื่น ๆ แต่สิ่งที่ตามมาก็คือเครื่องยนต์รถก็จะเล็กไปด้วย เดินทางไปไหนไกล ๆ ขึ้นเขา ลงดอยไม่ได้ สำหรับคนที่ของเยอะ หรือตัวใหญ่หน่อยก็อาจจะรู้สึกไม่โปร่งไม่กว้าง นั่งไม่ค่อยสบาย และการซื้อของราคาสูงอย่างรถ ซื้อทั้งทีก็ต้องใช้ให้คุ้ม แล้วแบบไหนถึงจะตรงใจ ตอบโจทย์การใช้งานกันนะ? วันนี้เราจึงจะมาชวนทุกคนมาจินตนาการภาพ City Car ในฝันไปพร้อมกัน… มีระบบอัจฉริยะเป็นผู้ช่วย เมื่อถึงยุคที่เทคโนโลยีอยู่ในทุกอย่างแล้ว แม้กระทั่งรถก็มีการใช้เทคโนโลยีมากมายเพื่อทำให้เราสะดวกมากขึ้น อย่างระบบ GPS นำทาง กล้องหน้า-หลังรถ ระบบเซ็นเซอร์ต่าง ๆ แต่ในอนาคต อาจจะมีเทคโนโลยีที่ล้ำไปกว่านั้น ลองคิดภาพดูว่าถ้าเปลี่ยนการดูแผนที่บนมือถือเป็นแล้วย้ายมาอยู่หน้ากระจกรถแบบ Real time หรือมีการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ว่ามีอะไรกีดขวางหรือเปล่า หากจะชนแล้วรถก็จะเบรกเองโดยอัตโนมัติ หรือแม้กระทั่ง AI ที่กำลังคลืบคลานเข้ามา […]
ก่อนที่จะเข้าเรื่อง บอนเน่อยากให้เพื่อน ๆ ลองหยิบกระเป๋าสตางค์ตัวเองมาเปิดดู แล้วนับดูหน่อยว่า ตัวเองพกบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรรถโดยสาร ไม่ว่าจะเป็น MRT, BTS, Airport Link ทั้งหมดกี่ใบ ? สิริรวมแล้ว บอนมีทั้งหมด 6 ใบ นี่ยังไม่นับบัตรสมาชิกร้านอาหารนั่นนี่… มาถึงตรงนี้ แปลว่า ในวัน ๆ หนึ่งที่ใช้ชีวิตในเมือง เราต้องเสียพื้นที่กระเป๋าตังค์ และเสียเวลาดึงบัตรเข้า ๆ ออก ๆ ไม่รู้กี่รอบ สิงคโปร์เค้านำร่องไปแล้วนะ !?! ซึ่งวันนี้แหละ บอนเน่ขอฉีกแนวบทความ จาก Health Tech มาบอกเล่าถึงประสบการณ์ในฐานะ User ที่ได้มีโอกาสไปอัพเดท เทรนด์เทคโนโลยี ที่ VISA Innovation Center ประเทศสิงคโปร์ ที่ตอนนี้เค้าให้ความสำคัญกับ contactless Technology มาก ๆ Contactless Technology คืออะไร […]
เพื่อน ๆ จำชีวิตตอนที่เทคโนโลยียังพัฒนามาไม่ถึงจุดนี้ได้ไหมคะ ไม่มีมือถือ ไม่มีคอมพิวเตอร์ สื่อสารผ่านการส่งจดหมาย จนกระทั่งถึงยุคปัจจุบันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทกับชีวิตเรามากขึ้น ใช้สมาร์ตโฟนกันเป็นอวัยวะที่ 33 นวัตกรรมต่าง ๆ ก็ผุดขึ้นมามากมาย จนรู้ตัวอีกทีเราก็ขาดเทคโนโลยีไม่ได้แล้ว พูดถึงบทบาทของเทคโนโลยีในปัจจุบัน หลาย ๆ คนคงพอรู้กันอยู่แล้วว่ามันเข้ามาทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้น แล้วในอนาคตล่ะ? วันนี้เราจึงจะมาจินตนาการไปพร้อมกันว่าเมื่อเราต้องอยู่ร่วมกับ AI โดยสมบูรณ์ ชีวิตเราจะดีขึ้นยังไง สวัสดีเช้าวันใหม่ ทุกวันนี้เราลืมตาตื่นขึ้นมา มีนาฬิกาปลุกผ่านสมาร์ตโฟน จะแปรงฟันก็มีแปรงสีฟันอัจฉริยะที่หัวแปรงหมุนเองได้ โดยไม่ต้องออกแรง แต่หากในอนาคตเราตื่นมาพร้อมระบบอัจฉริยะทั่วบ้าน มีหมอนเป็นผู้ช่วยวิเคราะห์การนอนว่าเหมาะสมแล้วหรือยัง แปรงฟันด้วยแปรงสีฟันอัจฉริยะที่สามารถตรวจแบคทีเรียในช่องปากของเราได้ บอกว่ามีฟันผุแล้วกี่ซี่ หรือแม้กระทั่งเชื่อมต่อกับกระจก ฉายภาพอินโฟกราฟิกให้เราเห็นภาพ และแนะนำทันตแพทย์ให้เสร็จสรรพ สำหรับมื้อเช้าอาจจะมีหุ่นยนต์ทำอาหารที่เราอยากกินให้ พร้อมคำนวณว่ามื้อนี้มีแคลอรี่เท่าไร และลืมไปได้เลยว่าต้องเดินไปล้างจานเองเพราะ AI จะช่วยเราหมด ถึงเวลาเดินทาง ปัจจุบันเราก็มีเทคโนโลยีมากมายที่ช่วยให้เราเดินทางสะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Google map หรือระบบต่าง ๆ ในรถยนต์ อย่าง ระบบ Cruise control ที่ช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบเบรกอัจฉริยะ ระบบประหยัดพลังงานที่เครื่องยนต์จะหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อรถจอดนิ่ง ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้ชีวิตเราสะดวกแล้วใช่ไหมคะ? […]
ยุคที่เทคโนโลยีเกิดขึ้นมากมาย ค่าไฟก็แพงเอา ๆ พลังงานก็ลดน้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้ทั่วโลกตระหนักเรื่องนี้กันมากขึ้น และเกิดคำถามว่า “เราจะทำยังไงให้พลังงานเหล่านี้มีเหลือใช้ต่อไปเรื่อย ๆ” หลายคนอาจจะมองว่าทุกวันนี้ชีวิตก็วุ่นวายพอแล้ว แต่ยังมีวิธีใกล้ตัวที่อาจจะมองข้ามไป ซึ่งมันช่วยให้เราประหยัดพลังงานได้ง่าย ๆ สะดวกสบาย และไม่เสียสุขภาพจิตด้วย เดินทางพร้อมเทคโนโลยี ทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีรอบตัวที่ช่วยให้การเดินทางของเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังประหยัดพลังงานอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น แอปฯ นำทาง จากเดิมเวลาไปไหนมาไหน เราจะใช้วิธีจำทาง ดูป้ายบอกทาง หรือดูแผนที่ ซึ่งสร้างความสับสนและหลงทางกันอยู่บ่อย ๆ ยิ่งหลง ยิ่งอ้อม ยิ่งเปลืองน้ำมัน แต่แอปฯ นำทางนี้จะช่วยให้เราเดินทางได้ง่ายขึ้น รู้เส้นทางก่อนล่วงหน้า ว่าควรไปทางไหนดี ทางไหนใกล้ที่สุด รถติดน้อยที่สุด เพื่อวางแผนการเดินทางได้อย่างฉลาด และช่วยประหยัดพลังงานไปในตัว หรือแอปฯ เรียกรถที่เริ่มนิยมกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะแค่เรียกรถในแอปฯ แล้วบอกว่าจะไปไหน ก็สามารถรู้ราคา หมดปัญหาเรียกแล้วไม่รับ และคิดราคาเกินจริง แถมถ้าไปกันหลาย ๆ คนในทางเดียวกัน ก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย ไปกัน 4 คน ค่ารถ 200 บาทก็ตกคนละ […]
หลังจากที่เพื่อน ๆ ทางบ้านถามกันเข้ามาว่ามีแอปฯ ดี ๆ เหมาะสำหรับผู้สูงอายุบ้างไหม ? วันนี้บอนเน่เลยจัดให้ค่ะ แอปพลิเคชั่นที่จะช่วยให้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุสะดวกขึ้น เรามาเริ่มต้นกันที่ Magnifying Glass เมื่อมีแว่นขยาย จะอ่านอะไรก็ง่ายขึ้น คนเราพออายุมากขึ้น ส่วนใหญ่สายตาก็จะเริ่มยาว ทำให้อ่านอะไรได้ไม่สะดวกเหมือนแต่ก่อนใช่ไหมคะ ? ยิ่งวันไหนลืมพกแว่นสายตายาวมาก็ต้องเพ่งสายตาจนทำให้ปวดหัว บางทีถึงแม้จะใส่แว่นก็อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะตัวหนังสือก็ยังเล็กเท่าเดิมอยู่ แอปฯนี้เลยตอบโจทย์ผู้สูงอายุ สุด ๆ เพราะสามารถซูมสิ่งที่กำลังอ่านได้มากถึง 10 เท่า !! ถ้าหากอยู่ในที่มืดก็สามารถเปิดโหมดไฟฉายเพิ่มความสว่างได้ ช่วยลดปัญหาปวดตาเวลาต้องจ้องมือถือ หรืออ่านอะไรนาน ๆ ได้เยอะเลยค่ะ Andriod – Magnifying Glass iOS – Magnifying Glass Kinya แอปฯเตือนกินยา เบาหวาน ความดัน “Kinya” หรือ “กินยา” แอปฯ ที่พัฒนาขึ้นโดยคุณหมอคนไทย เพื่อคนไข้กลุ่มที่ต้องทานยาทุกวัน วันละหลาย […]