ยุคที่เทคโนโลยีเกิดขึ้นมากมาย ค่าไฟก็แพงเอา ๆ พลังงานก็ลดน้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้ทั่วโลกตระหนักเรื่องนี้กันมากขึ้น และเกิดคำถามว่า “เราจะทำยังไงให้พลังงานเหล่านี้มีเหลือใช้ต่อไปเรื่อย ๆ” หลายคนอาจจะมองว่าทุกวันนี้ชีวิตก็วุ่นวายพอแล้ว แต่ยังมีวิธีใกล้ตัวที่อาจจะมองข้ามไป ซึ่งมันช่วยให้เราประหยัดพลังงานได้ง่าย ๆ สะดวกสบาย และไม่เสียสุขภาพจิตด้วย
เดินทางพร้อมเทคโนโลยี
ทุกวันนี้เรามีเทคโนโลยีรอบตัวที่ช่วยให้การเดินทางของเราสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ทั้งยังประหยัดพลังงานอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น แอปฯ นำทาง จากเดิมเวลาไปไหนมาไหน เราจะใช้วิธีจำทาง ดูป้ายบอกทาง หรือดูแผนที่ ซึ่งสร้างความสับสนและหลงทางกันอยู่บ่อย ๆ ยิ่งหลง ยิ่งอ้อม ยิ่งเปลืองน้ำมัน แต่แอปฯ นำทางนี้จะช่วยให้เราเดินทางได้ง่ายขึ้น รู้เส้นทางก่อนล่วงหน้า ว่าควรไปทางไหนดี ทางไหนใกล้ที่สุด รถติดน้อยที่สุด เพื่อวางแผนการเดินทางได้อย่างฉลาด และช่วยประหยัดพลังงานไปในตัว
หรือแอปฯ เรียกรถที่เริ่มนิยมกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะแค่เรียกรถในแอปฯ แล้วบอกว่าจะไปไหน ก็สามารถรู้ราคา หมดปัญหาเรียกแล้วไม่รับ และคิดราคาเกินจริง แถมถ้าไปกันหลาย ๆ คนในทางเดียวกัน ก็ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย ไปกัน 4 คน ค่ารถ 200 บาทก็ตกคนละ 50 บาทเท่านั้น ประหยัดเงิน ประหยัดเวลา และประหยัดพลังงานด้วย
และอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ “รถยนต์พลังงานไฟฟ้า” หรือ EV Car ที่ได้รับความสนใจมากในตอนนี้ เปลี่ยนจากการเติมน้ำมันเป็นชาร์จไฟแทน ใช้พลังงานสะอาด ไม่ปล่อยมลพิษสู่อากาศ แต่ด้วยราคาที่สูงอาจจะยังไม่ค่อยได้รับความสนใจมากนัก หากมองเรื่องความคุ้มค่าแล้ว เมื่อลงทุนซื้อรถพลังงานไฟฟ้า 1 คันด้วยราคาเริ่มต้น 1 ล้านต้น ๆ แต่ไม่ต้องเติมน้ำมัน ลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไประยะยาว แค่ชาร์จไฟแทนเท่านั้น ทั้งคุ้มค่าและประหยัดพลังงานอีกด้วย
Co-Working Space ทำงานรวมกัน ประหยัดกว่า
ยุคสมัยนี้แล้ว การทำงานในออฟฟิศแบบเดิม ๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์เสมอไป โดยเฉพาะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ธุรกิจ SME ต่าง ๆ ที่จะรู้ดีว่าค่าใช้จ่ายสำนักงานนั้นแพงหูฉี่ขนาดไหน ทั้งค่าเช่าออฟฟิศ ค่าจ้างแม่บ้านทำความสะอาด ค่าไฟ ค่าแอร์ ค่าสวัสดิการ ต่าง ๆ จนทำให้รายจ่ายของธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นจนเกินจำเป็น แต่สมัยนี้ก็มีสถานที่ทำงานแบบใหม่ ที่ฉีกกฎออฟฟิศแบบเดิม ๆ นั่นก็คือ Co-Working Space ที่มาตอบโจทย์ธุรกิจ SME ให้การทำงานไม่ซ้ำซาก จำเจ ได้ทำงานร่วมกันกับคนเยอะ ๆ และเกิดการแลกเปลี่ยน พูดคุยจนเกิดไอเดียใหม่ ๆ และที่สำคัญค่าใช่จ่ายน้อยกว่าเช่าสำนักงานเป็นไหน ๆ แต่คุณภาพที่ได้คุ้มค่า ไม่ต้องจ้างแม่บ้านทำความสะอาดเอง มีอุปกรณ์สำนักงาน บริการขนม เครื่องดื่มต่าง ๆ ด้วยราคาเริ่มต้นรายวันอยู่ที่ 200-300 บาทต่อคนเท่านั้น พนักงานได้บรรยากาศการทำงานที่ดี และผู้ประกอบการก็ประหยัดเงินอีกด้วย
Smart Home ควบคุมการใช้พลังงาน
ย้อนไปไม่เกิน 10 ปี บ้านอัจฉริยะยังเป็นคอนเซปต์ที่เราเห็นอยู่แค่ในหนังเท่านั้น แต่ทุกวันนี้อุกรณ์ Smart home ได้กลายเป็นสินค้าที่หาซื้อง่าย ราคาเอื้อมถึง ทำให้เราสามารถเปลี่ยนบ้านของเราเป็น Smart home ได้ด้วยอุปกรณ์เพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น
ลองคิดดูว่าถ้าเราออกจากบ้านไปโดยไม่ต้องห่วงว่าไฟจะปิดรึยัง บ้านล็อคแล้วรึเปล่า ลืมปิดแก๊สแล้วไฟจะไหม้ไหม เพราะระบบ Smart home จะช่วยให้ทุกอย่างทำเองอัตโนมัติ ไฟปิดเองเมื่อเราไม่อยู่ แก๊สปิดเองเมื่อยกอาหารออกจากเตา หรือในอนาคตแอร์อาจจะถูกพัฒนาให้แผ่ความเย็นอยู่แค่บริเวณที่เราอยู่เท่านั้น นั่นทำให้เราใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลืมไปได้เลยว่าเราเคยเสียค่าไฟไปเปล่า ๆ จากการเปิดแอร์ เปิดไฟทิ้งไว้
การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ ก็จะช่วยให้เราประหยัดพลังงานไปได้แบบไม่รู้ตัว ทั้งยังสะดวกสบาย ควบคุมการใช้พลังงานเองง่าย ๆ ผ่านมือถือด้วย
“การประหยัดพลังงานไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องช่วยกัน”
หน่วยงานอย่างสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ก็มีโครงการ “รวมพลังหาร 2” มาสนับสนุนการใช้นวัตกรรมประหยัดพลังงาน เพราะต้องการเห็นทุกคนหันมาใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราทุกคนในฐานะผู้ใช้พลังงานก็ลองนำนวัตกรรมที่หยิบมาเล่าไปปรับใช้กับชีวิตประจำวันดูนะคะ ทำได้จริงและประหยัดจริงอย่างแน่นอน