Startup Thailand 2017 เพิ่งผ่านพ้นไป และเดี๋ยวนี้ใครๆก็อยากจะเป็นสตาร์ทอัพ วันนี้เฟื่องเลยรวบรวม “” มาให้ทุกคนได้ลองศึกษากันดูก่อน เผื่อใครถนัดสาขาไหน มีไอเดียปิ๊งๆ เห็นปัญหาที่อยากจะแก้จะได้เห็นภาพใหญ่กว้างๆพร้อมๆกันนะคะ
1. E-Commerce :
Electronic Commerce หรือที่เรียกว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ คือ การประกอบธุรกิจการค้าผ่านส
ตัวอย่างสตาร์ทอัพที่เป็น E-Commerce ก็เช่น Alibaba ของ Jack Ma จากจีน, Amazon จากฝั่งอเมริกา, lazada ที่คนไทยคุ้นเคย (และถูกซื้อโดย Alibaba ไปแล้ว) หรือ 11th street จากเกาหลี เป็นต้น
สตาร์ทอัพเหล่านี้เป็นแพลตฟ
แต่แนะนำว่า… อย่าทำสตาร์ทอัป E-Commerce เลยค่ะ ยากมากๆที่เราจะไปไฝว้กับเจ
2. FinTech :
ไม่ใช่เทคแบบฟินๆ แต่ย่อมาจาก Financial Technology แปลเป็นไทยคือ เทคโนโลยีเกี่ยวกับการเงิน ส่วนใหญ่เป็นรูปแบบการจัดกา
(อยากรู้เรื่อง Fintech เยอะๆ เข้าไปอ่านบทความเฟื่องใน Digital Ventures ได้ทุกเดือนนะคะ #ฝากร้านนิด 55)
ตอนนี้ก็เป็นสาขาที่มาแรงมา
3. AgriTech :
Agricultural Technology หรือ เทคโนโลยีทางการเกษตร อันนี้เฟื่องว่าเป็นสาขาที่
หรือแม้แต่กระทั่งแแพลตฟอร์
ตัวอย่าง Startup เช่น GetKaset, Lennam เป็นต้น
EdTech :
Education กับ Technology หรือที่เรียกว่า เทคโนโลยีการสอน การศึกษาถือเป็นส่วนสำคัญใน
ที่น่าสนใจของไทยก็เช่น Globish อังกฤษแนวใหม่ใครๆก็พูดได้ , SkillLane
E-Service :
Electonic กับ Service หรือที่เรียกว่า บริการออนไลน์ เป็นการนำเอาเทคโนโลยีมาช่ว
โอกาสในสาขานี้อาจเป็นการพั
Internet of Things :
IoT หรือที่เรียกว่า อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง เป็นเทคโนโลยี การเชื่อมโยงสิ่งของ หรืออุปกรณ์ เช่น อาคาร บ้าน รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้สามารถเชื่อมต่อและควบคุ
เป็นโอกาสที่เราจะจับเทรนด์
อย่างไรก็ตาม หลายคนพอมีไอเดีย ไม่ค่อยกล้าบอกคนอื่น เพราะกลัวโดนก๊อป.. จากที่เคยคุยกับสตาร์ทอัปหล
ดังนั้นเฟื่องแนะนำง่ายๆ ทำอะไรก็ได้ที่คุณสามารถตื่
บอกความฝันนั้นออกไปบ่อยๆ เพื่อหาเพื่อนร่วมกระบวนการ
เป็นกำลังใจให้คนมีฝันทุกคน