5G พร้อมแล้ว! พาส่องอุตสาหกรรมล้ำ ๆ เมื่อมี 5G มาเติมเต็ม

5G เริ่มใกล้เข้ามาทุกทีแล้วนะคะ อย่างข่าวช่วงต้นปีที่เราเห็นค่ายต่าง ๆ ประมูล 5G กัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น 5G ไม่ใช่แค่สัญญาณมือถือที่เร็วขึ้น แต่คือการมาของนวัตกรรมที่จะสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นเมื่อมี 5G มาเติมเต็ม (โลกอนาคตในจินตนาการอาจจะมาถึงเร็วกว่าที่คิดก็ได้) ด้วยคุณสมบัติหลัก ๆ คือความเร็วที่มากกว่า 4G ถึง 10 เท่า! ความหน่วงต่ำกว่าและเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ทีละหลายอุปกรณ์ วันนี้เราจะพาทุกคนไปส่องอุตสาหกรรมใกล้ตัวที่เมื่อมี 5G มาเสริมแล้ว จะล้ำขึ้นยังไง

1. 5G+AR ความบันเทิงที่เหนือระดับ

เดิมความบันเทิงของเราอาจจะเป็นการไปดูคอนเสิร์ต ชื่นชมศิลปินที่ชอบ แม้จะได้บัตรที่ไกลเวทีแค่ไหนก็ยอม แต่ 5G+AR จะมาช่วยให้เราสามารถขึ้นไปร้องไปเต้นบนเวทีเดียวกับศิลปินได้ หรือความบันเทิงผ่านวิดีโอก็เปลี่ยนจากความละเอียด 4K เป็น 8K ได้ไม่ยาก ทำให้เราเข้าถึงความบันเทิงเหล่านี้ได้ละเอียดและเต็มตายิ่งขึ้น

2. การออกอากาศรายการด้วยเป้เพียงใบเดียว

เดิมการถ่ายทอดสัญญาณ ออกอากาศรายการ จะต้องใช้รถถ่ายทอดสัญญาณที่กินพื้นที่ ราคาก็สูงมาก และการติดตั้งก็ใช้เวลานานด้วย แต่เมื่อ 5G มาแล้วจะเป็นการถ่ายทอดสัญญาณด้วยเครื่องขยายสัญญาณ Huawei 5G CPE Pro เครื่องเล็ก ๆ ในกระเป๋าเป้พกพา แม้ขนาดจะต่างกันแต่ความเร็วในการปล่อยสัญญาณไม่ต่างกับรถถ่ายทอดสัญญาณเลย

3. การแพทย์ทางไกล เป็นจริงแน่

ช่วงโรคระบาดที่ผ่านมา 5G ก็มีส่วนช่วยในกลุ่มการแพทย์ อย่างการแบ่งปันข้อมูลและช่วยเหลือชีวิตคนไข้ทางทางไกล ยกตัวอย่างกรณีของประเทศจีนที่ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่เมืองหางโจว สามารถตรวจผู้ป่วยในเมืองหวงพี (ทั้ง 2 เมืองนี้อยู่ไกลกัน 700 กิโลเมตร) ผ่านการตรวจอัลตราซาวด์ระยะไกลผ่านระบบ B-mode ซึ่งการตรวจทางไกลในภาวะโรคระบาดแบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทั้งฝั่งแพทย์และผู้ป่วย และเป็นสัญญาณที่บ่บอกว่า Telemedicine หรือการแพทย์ทางไกล จะเป็นจริงแน่นอน

4. อุตสาหกรรมการผลิตควบคุมได้แบบไร้สาย

อย่างที่รู้กันว่า 5G มีแบนด์วิดที่สูงและความหน่วงต่ำมาก ๆ ทำให้ควบคุมการผลิตและตรวจสอบคุณภาพของชิ้นงานได้แบบไร้สาย ซึ่ง 5G มาช่วยลดความผิดพลาดในการผลิตลง อย่างอุตสาหกรรมกล้องถ่ายรูปที่อัปโหลดผ่าน 5G ไปยังคลาวด์ เพื่อดูคุณภาพของภาพถ่าย หรือหุ่นยนต์เลเซอร์นามบัตร ตรวจสอบความถูกต้อง แต่ละขั้นตอนการผลิตแยกออกจากกัน แต่เชื่อมต่อกันด้วย 5G 

5. รถบรรทุกไร้คนขับ

รถยนต์ไร้คนขับได้ใช้แน่เมื่อ 5G พร้อม พัฒนาไปถึงรถบรรทุกไร้คนขับที่มาแก้ปัญหาในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ที่เดิมมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ๆ เมื่อใช้รถบรรทุกไร้คนขับแล้วสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 1 ล้านหยวนต่อรถบรรทุกหนึ่งคันต่อปี (ประมาณ 4.4 ล้านบาท) และสามารเพิ่มความเร็วในการขับขี่ที่เดิม 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (คิดว่ารถบรรทุกไร้คนขับจะสามารถพัฒนาไปยังอุตสาหกรรมอื่น ๆ ได้อีก)

6. ควบคุมเครนยกตู้สินค้าได้จากระยะไกล

เดิมการควบคุมเครนยกตู้สินค้าเวลาขนขึ้น-ลงเรือจะต้องมีคนควบคุมและดูอยู่ใกล้ ๆ หลาย ๆ คน ซึ่งค่อนข้างเสี่ยงและใช้กำลังคนเกินจำเป็น แต่ 5G มาช่วยให้เจ้าหน้าที่ 1 คน สามารถควบคุมเครน 6 ตัวได้จากห้องบังคับระยะไกล ด้วยการที่เครน 1 ตัวจะมีกล้องติดอยู่ 10-18 ตัว และส่งวิดีโอสดความละเอียดสูงกลับมาที่ห้องควบคุม และเจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมเครนได้แบบเรียลไทม์กลับไป 

เราจะเห็นนะคะว่า 5G จะเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตของเราในแทบทุกมิติ ถ้าใกล้ตัวที่สุดคงจะเป็นโทรศัพท์มือถือ 5G ก็จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับวงการมือถือไปเลย สังเกตุว่าตอนนี้ถ้าจะซื้อมือถือใหม่สักเครื่อง การรองรับ 5G ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อ และค่ายมือถือที่มาแรงเรื่อง 5G ที่สุดในตอนนี้ก็คงจะเป็น HUAWEI ที่พัฒนาทุกอย่างเป็นอีโคซิสเตม 5G อุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่เล่าไป HUAWEI เองก็เป็นผู้สนับสนุน

ล่าสุด HAUWEIi ก็ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ “HUAWEI nova 7 series” ที่สเปกค่อนข้างดี ราคาเข้าถึงได้ (เดิมมือถือ 5G จะราคาสูงหน่อย) เป็นทางเลือกสำหรับใครที่มองหาสมาร์ตโฟนเพื่อเตรียมรับ 5G (เราเคยรีวิวไปแล้ว ตามไปดูได้นะคะ จะแปะคลิปให้ด้านล่างค่ะ)

ฝั่งแท็บเล็ต 5G ก็มีด้วย “HUAWEI MatePad Pro 5G” ที่นับว่าเป็นแท็บเล็ตที่รองรับ 5G เครื่องแรกในเอเชีย ณ ตอนนี้เลยค่ะ มีอุปกรณ์เสริมเป็นคีย์บอร์ด และปากกา สามารถพกไปทำงานในรูปแบบ PC Mode หรือจดงานก็ได้เลย ที่สำคัญคือรองรับ 5G ด้วย (เราเคยสรุปจุดเด่นไปแล้ว ตามไปดูได้ค่า)

ความล้ำของเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ พัฒนาอย่างก้าวกระโดดเลยนะคะ อยากให้ทุกคนติดตามและคอยรับมือไปพร้อม ๆ กัน ถ้าอยากอ่านบทความเรื่องอะไร ประเภทไหนอีกก็คอมเมนต์มาคุยกันนะคะ

คลิปรีวิว HUAWEI nova 7i