"Mind"

วิธีรับมือเมื่อรู้สึกแพนิคด้วยเทคนิคจากโดมิโน

ตั้งแต่ #กูติดโควิดยังวะ ไปจนถึงความกังวลว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไงต่อไปนะ ความรู้สึกแพนิคหรือตื่นตระหนกมักเกิดเวลาไม่รู้อนาคตที่แน่นอน ทำให้กังวล ตื่นตูมจนไม่เป็นอันทำอะไร ถ้าอยากจัดการกับความรู้สึกแพนิค เราต้องรู้ทันตัวเองก่อนว่า “เรามักควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาเจอเรื่องที่คาดเดาไม่ได้” เวลาในหัวฝังใจกังวลกับบางเรื่อง เช่น โรคระบาด  สิ่งที่เราทำตามมาทั้งหมด ก็จะได้รับอิทธิพลจากความกังวลนั้น ทำให้หยุดอ่านข่าวลบๆไม่ได้แม้สติแตกไปจนถึงคิดวนซ้ำไปซ้ำมา หรือ ลงมือทำอะไรเกินกว่าเหตุ ทั้งนี้แม้รู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะเป็นโรคแพนิค แต่รู้ไหมคะว่าที่จริงแล้วเราไม่ได้เป็นโรค Panic Disorder กันง่ายๆ แค่เพราะกังวลนะ คนที่เป็นโรคนี้เกิดจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ไม่เกี่ยวกับเรื่องราวภายนอก มีอาการใจสั่น แน่นหน้าอก หายใจถี่ เหงื่อออกมาก เป็นลม วิงเวียน กลัวไปหมดทุกอย่างต้องรักษาด้วยการปรับฮอร์โมนกับแพทย์เท่านั้น ส่วนอาการหมกมุ่นกับความกังวลที่เรามักเป็นกัน เป็นเรื่องของการจัดการอารมณ์ซึ่งเราสามารถควบคุมเองได้ค่ะ  แล้วจะควบคุมความรู้สึกที่ดูควบคุมไม่ได้นี้อย่างไรดี…  เคยเห็นโดมิโนที่ล้มพังครืนเป็นแถวยาวต่อกันไหมคะ เพียงดีดนิ้วให้โดมิโนตัวแรกล้มลง ตัวที่ 2 3 4 5 ก็ล้มพังครืนตามๆกันมาอย่างรวดเร็ว จะหยุดให้โดมิโนตัวถัดๆมาไม่ล้มตามก็ไม่ทัน  อุปสรรคชีวิตและปัญหายิ่งใหญ่ในโลก หลายครั้งก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว  พังทลายในชั่วพริบตาไม่ต่างกับแถวโดมิโน เวลานั่งดูโดมิโนที่เป็นแค่ของเล่นพังครืน ก็คงรู้สึกเพลิน ๆ ดี แต่ถ้าหลากหลายเรื่องในชีวิตพังจนตั้งตัวไม่ทันแบบโดมิโนล้มจะมีวิธีรับมือไม่ให้แพนิคยังไง ไม่นานมานี้ได้ดูคลิปไวรัลอันหนึ่งชื่อ Cats and Domino คนทำคลิปนี้ เรียงโดมิโนต่อกันเยอะๆ ดีดลูกบอลให้โดมิโนล้มแล้วจับแมวมานั่งดู สังเกตได้ว่า ลูกบอลจะวิ่งไปเร็วและโดมิโนล้มเร็วมาก […]

ระวังตัวจากคน Toxic สายพ่นพิษ

ว่ากันว่าคนรอบตัวมีผลกับชีวิตของเรามาก หากห้อมล้อมด้วยมิตรภาพที่ดี เราย่อมเชื่อมั่นในความสัมพันธ์และมองโลกในแง่บวกมากขึ้น แต่ถ้ารอบตัวเรามีแต่คนแผ่พลังงานลบล่ะ จะเป็นยังไง ? วันนี้ชวนมาทำความรู้จัก คน Toxic สายพ่นพิษ เพื่อหลีกเลี่ยงคนกลุ่มนี้ในชีวิตกันค่ะ คน Toxic  มักเป็นคนทำเรื่องให้ ‘กร่อย’ สร้างดราม่า บรรยากาศและความรู้สึกแง่ลบขึ้นมา  เช่น เพื่อนช่างนินทาที่ชวนซุบซิบว่าคนอื่นตลอดเวลา คนในออฟฟิสที่ช่างติ ช่างตัดสินคนอื่นจนทำให้ทีมแตกคอกัน คนที่ทะเลาะกันแล้ว ไม่ยอมฟังความคิดเห็นคนอื่น เข้าข้างตัวเองอย่างเดียว แม้เราจะเป็นคนคิดบวกเท่าไหร่ แต่ถ้ามีคนเหล่านี้อยู่รอบตัว ย่อมต้องคอยฟังดราม่าและรับพลังงานลบไปด้วย  มีผลทำให้โกรธและเครียดตามคนอื่นโดยไม่จำเป็น น่าประหลาดที่บ่อยครั้งเรามักไม่รู้ตัวเวลาคนแผ่พลังงานลบมาให้ และปล่อยให้ตัวเองทนอยู่กับคนที่พ่นพิษใส่เราเหล่านี้ คล้ายเวลาที่คนมีบ้านอยู่ใกล้โรงงานปล่อยควันพิษ ก็มักชินกับการสูดดมควันพิษเข้าไป รู้ตัวอีกที ก็อาจไม่สบายเสียแล้ว เคล็ดลับง่ายๆที่ช่วยให้เราปกป้องตัวเองจากคน Toxic คือ การรักตัวเองค่ะ รักตัวเอง (Self-Love) คือ การเห็นคุณค่า เชื่อมั่นและเคารพในตัวเอง ว่าเราสมควรได้สมาคมกับคนที่มีพลังบวก สมควรได้รับอากาศบริสุทธิ์ที่ทำให้ความสัมพันธ์สุขภาพดี เมื่อเรารักตัวเองมากพอและมีพลังบวกเป็นเกราะหุ้ม เราจะมีเส้นอาณาเขตว่าความสัมพันธ์ที่ดีเป็นแบบไหน และไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเรา เราจะไม่วิ่งตามคนที่ไม่แคร์เรา พูดจากับเราแย่ๆ หรือทำให้เรารู้สึกไม่ดีกับตัวเอง จะไม่คิดมาก หมกมุ่นกับเรื่องลบที่อีกฝ่ายพูดจนไม่เป็นอันทำอะไร และถอยห่างจาก ‘ตัวการ’ […]

กักตัวยังไง ไม่ให้ใจโดดเดี่ยว…

ถึง เพื่อนบ้านเดียวกันในยุค Covid-19 ช่วงนี้ทุกคนคงหลีกหนีไม่พ้น “Social Distancing” การรักษาระยะห่างเพื่อหลีกเลี่ยงโรคติดต่อ  เราต่างห่าง(ตัว)กันเพราะกลัวป่วย แต่รู้ไหมคะว่า หากห่างหายจากสายสัมพันธ์มากเกินไป อาจทำให้เกิด “Social Isolation” สภาวะโดดเดี่ยวทางสังคม ที่ทำให้ป่วยได้เหมือนกัน การโดดเดี่ยวเกินไป ไม่ค่อยมีปฏิสัมพันธ์กับใครนั้น  มีผลเสียต่อสุขภาพเราในระยะยาว พอๆกับการสูบบุหรี่และความอ้วนเลยทีเดียว แถมยังมีแนวโน้มทำให้เครียด ซึมเศร้าและอายุสั้นลงด้วย ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังเริ่มเหงาหงอยซึมเศร้าอยู่ที่บ้าน ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะวันนี้เรามีวิธี กักตัวแบบ ‘ห่างตัวแต่ไม่ห่างใจ’ มาฝากทุกคนกันค่ะ Check In เล่าสู่กันฟังในทุกๆวัน แม้ว่าแต่ละวันอาจไม่มีเรื่องให้เล่ามากมาย แต่การ ‘เช็คอิน’ ทักทายคนใกล้ตัวเพียงแค่ “สบายดีไหม” “วันนี้เป็นยังไงบ้าง” ก็เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่ทำให้รู้สึกว่าเรายังไม่หายจากกันไปไหน ลองเปลี่ยนจากเพียงแค่อัพเดทสเตตัสในช่องทางโซเชียลของตัวเอง มาทักทายคนใกล้ตัวที่ไม่ได้เจอกันโดยตรงดูบ้าง หากเปิดกล้อง วิดีโอคอลให้เห็นหน้า รอยยิ้มและน้ำเสียงของกันและกัน สักเล็กน้อย ย่อมทำให้รู้สึกใกล้กันมากกว่าเห็นเพียงแค่ตัวอักษร Discuss สร้างสรรค์กิจกรรม หาเรื่องคุยกับคนอื่น  การได้พูดคุย ทำกิจกรรมกับคนที่สนใจเรื่องเดียวกันเป็นเรื่องสนุกเสมอ เมื่อมีเวลาดูหนัง อ่านหนังสืออยู่บ้านมากขึ้น ลองจัดกิจกรรมชวนเพื่อนมาเข้า Book Club หรือ […]

Work (life balance) from home

Work from home ก็ Work life balance ได้ ใครที่เจอปัญหาเรื่องการ Work from home อยู่จะต้องปรับอย่างไร? บริหารเวลาให้งานและชีวิตส่วนตัวได้ต้องเริ่มยังไงบ้าง

เมื่อ Fake News ทำเราตื่นตูม! สืบหาข้อเท็จจริงยังไง?

ยิ่งช่วงเกิด Pandemic (โรคระบาดใหญ่) ยิ่งทำให้มีโอกาสเกิดภาวะข้อมูลผิดเพี้ยนจากข่าวสารโรคระบาดสูง วันนี้มาฝึกเป็นนักสืบหาข้อเท็จจริงจากข่าวปลอมกันค่ะ

คุณเคย ‘ฉอด’ รึเปล่า?

ฉอด คืออะไร? เท่าที่เรารวบรวม แล้วก็เฝ้าดูคำนี้มา หมายถึง การแสดงความคิดเห็นหรือการถกเถียง ที่ทำให้เกิดการโต้แย้ง ปะทะ กันในบริบทนั้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับ...

ศิลปะการตั้ง Notification ในโลกที่วุ่นวาย

24 ชม. All Day, All Night คือ ช่วงเวลาที่ทุกคนสามารถทักหากันได้ในทุกวันนี้ (ถ้าไม่ปิดโทรศัพท์) เกิดเป็นสารพัน Notification ที่ล้นทะลักในแต่ละวัน  ข้อความทักจากเพื่อนยังไม่พอ โฆษณาและข่าวสารจากสื่อและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ยังกระหน่ำส่งข้อความโปรโมทสินค้าหรือบริการกันมาอย่างไม่หยุดหย่อน แม้ Notification ดูจะเป็นสิ่งรบกวนที่ทำให้เราเสียสมาธิและเหนื่อยล้าได้ง่าย แต่การตั้ง Notification ให้ไม่เตือนอะไรเลยอาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เพราะมีการวิจัยออกมาว่าคนที่ยกเลิกการตั้งแจ้งเตือนจากอีเมลหรือโซเชียลบางกลุ่ม กลับมีความเครียดมากขึ้นและสุดท้ายคนสมัยนี้ก็หลีกเลี่ยงการติดต่อผู้อื่นผ่าน โซเชียลหรืออีเมลไม่ได้อยู่ดี สิ่งที่ควรทำมากกว่าอาจเป็นการสร้างสมดุลและมีศิลปะในการตั้ง Notification เช่น ไม่ “เปิดประตู” ให้คนทักมาได้ตลอดเวลา ลองกำหนดเวลาสำหรับเช็ค Notification โดยเฉพาะบ้าง และเปิดโหมด Do Not Disturb สำหรับช่วงพักผ่อนเพื่อกลับมาอยู่กับตัวเอง ที่สำคัญไม่แพ้กัน คือการรู้ว่าตัวเราใช้โซเชียล Platform ไหนในการทำอะไรเป็นหลัก คุยงานหรือคุยเล่นในไหนบ้าง การเลือกรูปแบบการตั้ง Notification ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์เรา มีส่วนช่วยจัดการชีวิตให้ดีขึ้นได้ สมัยนี้ Notification ในหลายแอพพลิเคชั่นสามารถเลือกได้ทั้งแบบที่ขึ้น Preview มาเป็น Banner หรือขึ้นเป็นเพียงตัวเลข Badges […]

Micro-Cheating การนอกใจเล็กๆ น้อยๆ ในโลกออนไลน์

เชื่อว่าถ้าพูดถึง “การนอกใจ” หลายๆ คนคงมีภาพฉากการนอกใจแวบขึ้นมาในหัว เช่น จับได้แฟนว่าไปเดทกับคนอื่น หรือ พบแชทยาวๆ ที่คุยกับกิ๊ก แต่รู้หรือไม่ว่า ในยุคนี้ที่เทคโนโลยีรุดหน้า ทำให้การติดต่อสื่อสารง่ายขึ้น การนอกใจของคนยุคใหม่ก็รุดหน้าไปในอีกรูปแบบด้วยเช่นกัน วันนี้จะแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับการนอกใจที่เกิดขึ้นได้ง่ายในโลกออนไลน์ “Micro-Cheating” คือ พฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อคู่รักเล็กๆ น้อยๆ พฤติกรรมที่ทำแล้วไม่อยากให้คู่รักได้รู้ แม้จะไม่ใช่การนอกใจโดยตรงก็ตาม  เช่น การแชทกับแฟนเก่าหรือเพื่อนต่างเพศโดยปกปิดไม่ให้คนรักรับรู้ การเล่น Tinder คุยเล่นกับเพื่อนต่างเพศ การกดเลิฟ หรือใช้ emoji สื่อรักที่โพสต์ของเพศตรงข้ามบ่อยๆ รวมทั้งการโปรยสเน่ห์และหยอดเล็กๆน้อยๆทางโซเชียลอื่นๆ อีกมากมาย หากเป็นในโลกออฟไลน์ Micro-Cheating คงคล้ายกับการยิ้มแบบโปรยสเน่ห์ให้คนแปลกหน้า  หรือซื้อเครื่องดื่มให้คนที่ถูกใจซักคนในผับ การกระทำเหล่านี้ แม้ส่วนใหญ่จะไม่นำไปสู่ความสัมพันธ์ที่จริงจัง แต่ก็ถือว่าเป็นการไม่ซื่อสัตย์… Micro-Cheating ในโลกออนไลน์ก็เช่นกัน เพียงแต่  เมื่อแอบเหล่หรือหยอดใครในออนไลน์จะมีหลักฐาน (Digital Footprint) บันทึกไว้หมด ซึ่งอาจมีผลทำให้ความสัมพันธ์ของบางคู่สั่นคลอนได้ ในขณะเดียวกัน มีหลายคนที่คิดว่า Micro-Cheating เป็นเรื่องไร้สาระ คนกลุ่มนี้เชื่อว่าทุกคนควรมีสิทธิ์ที่จะมีมนุษยสัมพันธ์ดีกับเพศตรงข้ามและโซเชียลมีเดียเพียงแค่ทำให้คนเราสนิทสนมกันได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ต้องบอกว่า เส้นแบ่งระหว่าง Micro-Cheating “การนอกใจเล็กๆน้อยๆ” […]

อะไรคือความสวยหล่อในยุคที่ทุกคนแต่งรูป

*Beauty is in the eye of social media user* *ความงามขึ้นอยู่กับสายตาคนเล่นโซเชียล* คำกล่าวนี้คงไม่เกินจริงเกินไปนัก เมื่อยุคนี้ เรามีทั้ง Filter ที่แต่งรูปให้เราดูเพอร์เฟ็กต์ แอพพลิชั่นที่บีบให้หุ่นเราดูผอม รีทัชลดรอยสิว ทำวงแขนให้ขาว และอีกมากมาย เมื่อคนยุคใหม่เสพความสมบูรณ์แบบจากรูปที่แต่งมากขึ้น นิยามความสวยหล่อแบบใหม่ก็เกิดขึ้น… “คะแนนนิยม” ในโซเชียลทั้งการกดไลค์และจำนวนคน Follow กลายเป็นสิ่งที่ชี้วัดความฮอตอย่างหนึ่ง หากถามว่าอะไรคือสิ่งที่ “ดูดี” ในยุคโซเชียล? แต่ละคนคงมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป บางคนชอบถ่ายรูปแบบฮิปสเตอร์ ในขณะที่บางคนชอบเซลฟี่ แต่ไม่ว่าจะดูดีแบบไหน ทุกคนต่างคัดสรรรูปที่ดีที่สุดมาลงโซเชียล แต่ละวัน Feed ของแต่ละคน เต็มไปด้วยภาพที่ “เพอร์เฟ็กต์” จากแบรนด์ ดารา และแม้กระทั่งเพื่อนของเราเองภาพจากทั้งโฆษณาและสื่อต่างๆดึงมาตรฐานความสวยหล่อในยุคนี้ให้สูงขึ้น การที่โซเชียลมีเดียดึงมาตรฐานความงามให้สูงขึ้นอาจดูผิวเผินเหมือนมีแต่ข้อเสีย แต่ความจริงแล้วก็มีข้อดีในแง่ที่ช่วยกระจายโอกาสให้ทุกคนมีรูปที่สวยสมบูรณ์แบบสมใจอยาก จากที่แต่ก่อนมีแค่รูปดาราเท่านั้นที่แต่งรูปเพื่อลงนิตยสาร แต่โซเชียลมีเดียอำนวยให้ทุกคนสามารถแต่งรูปให้สวย  และแจ้งเกิดเป็นเน็ตไอดอลด้วยตัวเองได้ เพราะทุกคนมีสื่อเป็นของตัวเอง เป็นเรื่องน่าคิดต่อว่า เมื่อรู้ว่าสังคมมีการให้ค่าความสวยหล่อ แล้วจำเป็นไหมที่เราต้อง #NoFilter ไม่แต่งรูป เพื่อไม่ตามมาตรฐานความงาม หรือ Beauty […]