Blockchain เอามาปรับใช้ในวงการการแพทย์แล้ว คนรับบริการได้ประโยชน์อะไร?
เคยมั้ยคะ? ไปหาหมอกี่โรงพยาบาลก็ต้องนั่งกรอกข้อมูลใหม่ ทั้งประวัติคนไข้ ประวัติโรค อาการการป่วยต่าง ๆ หรือบางที่คือ เรามีใช้สิทธิ์รักษาฟรี ต้องเดินทางไปขอสิทธ์จากโรงพยาบาลที่นึง แล้วค่อยเอาใบสิทธิ์ไปยื่นอีกที่นึงที่เรารักษา จากที่ป่วยอยู่แล้ว เจอขั้นตอนยุ่งยากแบบนี้แทบจะป่วยหนัก หาหมอแต่ละทีไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ปัญหานี้จะหมดไปถ้าทุกโรงพยาบาลหันมาใช้เทคโนโลยี Blockchain ค่ะ
เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า Blockchain กันมาแล้ว และคำนี้เมื่อปีที่แล้ว เราอาจได้ยินมันพร้อมกับคำว่า Bitcoin หรือ Cryptocurrency ซะส่วนใหญ่ แต่ปีนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว หลายคนอาจจะยังเข้าใจผิด
คิดว่า Blockchain เอาไว้ใช้กับวงการเงินคริปโตฯ เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วมันใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรมเลย อยู่ที่การเอาไปปรับใช้ และต่อยอดของแต่ละอุตสาหกรรมค่ะ วันนี้บอนมีอีกมุมของ Blockchain ที่เกี่ยวกับเรื่องการแพทย์มาเล่าสู่กันฟัง
ย้ำอีกที Blockchain คืออะไร?
Blockchain คือเทคโนโลยีในการจัดเก็บข้อมูล ที่เข้ามาปฏิวัติตัวกลางที่คุมอำนาจขาด (centralized) ด้วยการกระจายอำนาจในการตรวจสอบ (decentralized) เพราะธุรกรรมเกือบทุกอย่างที่เราใช้วันนี้ เป็นการเก็บข้อมูลไว้ที่ใดที่หนึ่ง ซึ่ง Blockchain จะมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบนี้ โดยการกระจายการเก็บข้อมูลนั้นไปยัง User หลาย ๆ User ในระบบเดียวกันบน cloud โดยที่ทุก User จะถือข้อมูลชุดเดียวกัน ขนาดเท่ากันเป็นแบบบล็อค (Block) เชื่อมต่อกันเป็นโซ่ (Chain) จนเกิดเป็น Blockchain
จุดเด่นของมันคือช่วยลดการใช้ทรัพยากร สะดวก รวดเร็ว และที่สำคัญ ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยมาก เพราะในข้อมูลนั้น ๆ จะได้รับการเข้ารหัส (encryption) ที่่เปลี่ยนแปลงได้ก็ต่อเมื่อ ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิ์หรือ ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นข้อมูลจริงจาก User ในระบบเท่านั้น ใครชอบดูเป็นคลิปวิดีโอ สามารถเข้าไปดูคลิปที่ LDA ทำไว้ได้เลยค่ะ